หุ ๆๆ ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “ครีมกำจัดขน” ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า สาว ๆ กำลังมีปัญหากับเส้นขนต่าง ๆ บนร่างกาย ไม่ว่าจะ ขนรักแร้, ขนตามแขนตามขา หรือขนอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่กล้าโชว์ผิว หรือผิวดูไม่สวยกันใช่ไหมล่ะคะ ??? ก็บอกเลยว่า คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมยี่ห้อครีมขจัดเส้นขนที่น่าสนใจ ที่เด็ด ๆ ปัง ๆ มีรีวิวดีงาม มาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว และถ้าสาว ๆ ได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ เตรียมตัวเสียเงินซื้อ ไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่งกันอย่างแน่นอนเด้อ ตอนนี้คงสงสัยกันแล้วสินะว่า จะมียี่ห้ออะไรมาให้ดูกันบ้าง ก็ตามมาเลยค่าาา
สารบัญ
ครีมกำจัดขน อันตรายไหม ?
หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถามว่า ครีมกำจัดขน อันตรายไหม ? ก็ต้องเรียนตามตรงว่า ถ้าใช้งานอย่างถูกวิธี และใช้ครีมที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ก็จะมีความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูงค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผิวหนังและเส้นขนของแต่ละคนด้วยนะคะ บางคนจะมีผิวหนังที่ค่อนข้างแข็งแรง ทนต่อสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี ก็ทำให้แทบจะไม่มีปัญหาจากครีมขจัดขน แต่ถ้าใครที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ต้องค่อนข้างระวังตัวกันหน่อย การทาหรือพอกครีมทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพื่อให้เส้นขนหลุดง่าย ๆ ก็อาจจะทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้ค่ะ
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและผิวหนังมากที่สุด เวลาซื้อครีมขจัดขนมาแล้วก็ควรที่จะ “ทดสอบการแพ้” ด้วยตนเองกันก่อนค่ะ (ลองซื้อหลอดเล็ก ๆ มาก่อนก็ดี เพื่อแพ้จะได้ไม่เสียเงินมากนัก) หลัก ๆ ก็จะทดลองด้วยการทาครีมขจัดขนบริเวณที่ต้องการ หรือจะทาบริเวณท้องแขนก็ได้เป็นวงเล็ก ๆ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หรือตามที่ผลิตภัณฑ์เขาระบุไว้ จากนั้นทำความสะอาดหรือเช็ดออก แล้วสังเกตอาการบริเวณที่ทาไว้ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าผิวหนังปกติดี ไม่มีอาการแสบร้อน ก็แสดงว่า สามารถใช้ครีมขจัดขนนั้น ๆ ได้อย่างปลอดภัยค่ะ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พอทดสอบแล้วปลอดภัย ก็จะตะบี้ตะบันใช้ครีมถี่ ๆ หรือทุกวี่ทุกวันนะคะ เพราะตัวครีมจะมีสารเคมีที่ช่วยในการทำลายโปรตีนเคราตินในเส้นขน พอโปรตีนเกิดความเสียหาย ก็ทำให้เส้นขนหลุดออกได้ง่าย แต่ก็ทำให้โปรตีนเคราตินที่ผิวหนังได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งการใช้ครีมขจัดขนบ่อย ๆ ก็จะทำให้ผิวหนังอ่อนแอไปเรื่อย ๆ นั่นเอง แล้วถ้าถามว่า ควรใช้งานบ่อยแค่ไหนล่ะ ? คนส่วนใหญ่ก็แนะนำว่า ควรใช้ที่สัปดาห์ล่ะ 1 ครั้ง หรือถ้าคิดว่าผิวหนังแข็งแรง จะใช้บ่อย ๆ ตามที่ผลิตภัณฑ์ระบุ หรือใช้ทุก ๆ 3 วันก็ได้ค่ะ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว ครีมกำจัดขน ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่สนใจ อยากจะเห็นสินค้าครีมขจัดเส้นขนทั้ง 10 ยี่ห้อ แบบพร้อม ๆ กัน สามารถเลื่อนไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอียดของสินค้ากันได้แบบง่าย ๆ ก็ขอแนะนำให้ลองกดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันได้เลยค่าา
1. ยี่ห้อ We Wax
ราคาโดยประมาณ 189 บาท ต่อ 180 g.
ใครแพ้เก่ง แพ้ง่าย ชอบครีมกำจัดขนแบบ organic แนวธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี แต่อยากกำจัดขนแบบ เรียบเนียน 5 4 3 2 1 บู้มมม ขนหายเกลี้ยง พร้อมโชว์ขาเนียน แนะนำตัวนี้เลยค่าา เค้าคือครีมกำจัดขน We Wax Hair Removel Cream ที่ใช้ง่ายมากกก แถมปลอดภัย ไร้สารเคมี ส่วนผสมเป็นน้ำผึ้ง น้ำตาล ธรรมชาติมากๆๆ วิธีการง่ายๆ เพียงแค่1.ปาดแว็กซ์ตามแนวขน 2.นำกระดาษมาแปะบริเวณที่ปาดแว็กซ์ ลูปแนบๆๆ 3.ดึงกระดาษย้อนแนวขนอย่างรวดเร็ว ทำซ้ำจนกว่าขนจะหมด 4.เช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณที่แว็กซ์
มากันที่ส่วนผสมกันหน่อยจ้า ที่บอกว่าแบรนด์นี้ เค้าทำออกมา เพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ก็เพราะว่าตัว we wax เอง เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดขนที่ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแบบแน่น ๆ เน้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้ง น้ำตาล น้ำมะนาว ที่จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ขาว เนียนนุ่ม ช่วยทำให้เส้นขนที่เกิดใหม่มีความอ่อนนุ่ม ไม่เป็นตอ ไม่แข็งเหมือนโกนทิ้ง และยังช่วยให้เส้นขนใหม่ลดน้อยลงด้วย ก็ตอบโจทย์ทั้งเรื่องกำจัดขนไม่พอ ยังช่วยเรื่องการบำรุงทำให้ผิวเนียนสวยชุ่มชื้นมากขึ้นอีกด้วย ส่วนราคาก็ไม่แรงมากก สบายๆกระเป๋าอีกด้วย “ เผยผิวเนียนไร้ขนกวนใจด้วยวีแว็กซ์ ”
| จุดเด่น | ใช้งานง่าย อ่อนโยน ขนหลุดไว อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้ขนที่เกิดใหม่อ่อนนุ่ม ลดน้อยลง ไม่เป็นตอ ผิวขาว นุ่ม ชุ่มชื้น |
| สารบำรุง | น้ำผึ้ง น้ำตาล น้ำมะนาว |
| ระยะเวลาในการใช้ | เห็นผลทันทีที่ใช้ ระยะเวลาขนขึ้นใหม่2-4สัปดาห์ |
| เหมาะสำหรับ | กำจัดขนได้ทุกส่วน ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ก็สามารถใช้ได้ |
| สัญชาติ | ไทย |
2. ยี่ห้อ Cho-Ar Hair Removal
ราคาโดยประมาณ 189 บาท ต่อ 200 ml
ใครกำลังมองหาไอเท็มที่ทั้งช่วยกำจัดขนให้เกลี้ยงเกลา พร้อมทั้งมอบการบำรุงผิวแบบใหม่ ๆ ใส่ใจกว่าเดิม อยากให้เปิดใจลองตัวนี้เลยค่ะ สำหรับครีมกำจัดขน Cho-Ar (โชอา) Hair Removal ที่ทำงานด้วยกันแบบ 2 กลไก คือ 1. ขจัดขนและทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก 2. เป็นตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิว พร้อมบำรุงต่อให้ขาวสว่าง กระจ่างใส ซึ่งตัวนี้จะใช้นวัตกรรมในการดูแลผิวใหม่ล่าสุดจากเกาหลี ซึ่งเป็นสูตรพิเศษเฉพาะของ Cho-Ar เท่านั้นค่ะ เริ่ดดดดเวอร์!
และสำหรับตัวครีมโชอา เค้าจะเน้นส่วนผสมและสารบำรุงจากธรรมชาติล้วน ๆ ตั้งแต่การใช้เอนไซม์บริสุทธิ์จากน้ำสับปะรดและมะละกอ เข้ามาทำหน้าที่เปิดรูขุมขน แล้วย่อยสลายเส้นขน ทำให้เส้นขนอ่อนตัวลงหลุดง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการผลัดเซลล์ผิว บำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใส ทำให้จุดด่างดำต่าง ๆ แลดูจางลง และยังมีส้มเขียวหวานเกาหลี, น้ำแร่จากเกาะเชจู, น้ำมันมะกอก, น้ำผึ้ง และสารสกัดจากดอกวิชฮาเซล เข้ามาช่วยเรื่องบำรุงผิวให้ขาว ล็อกสีผิว เติมความชุ่มชื้น ฟื้นผิวให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีกก ขณะเดียวกันก็ยังอ่อนโยน ลดการระคายเคืองจากการกำจัดขนได้อีกด้วย ถ้าได้ลองแล้วลืมทุกตัวที่เคยใช้มาแน่นอน ของเค้าดียยย์จริง การันตีด้วยยอดขายทางออนไลน์กว่า 10k +++ ค่าา
| จุดเด่น | กำจัดขนแต่สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก มอบการบำรุงผิวให้ขาวสว่างกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ คืนความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง |
| สารบำรุง | เอนไซม์บริสุทธิ์จากน้ำสับปะรดและมะละกอ มีส้มเขียวหวานเกาหลี น้ำแร่จากเกาะเชจู น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง และสารสกัดจากดอกวิชฮาเซล |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ 10 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
3. ยี่ห้อ Veet สูตร Silk & Fresh
ราคาโดยประมาณ 75 / 140 บาท ต่อ 25 / 50 g
ใครที่กำลังมองหาครีมกำจัดขน แน่นอนว่าต้องเจอยี่ห้อ Veet กันอย่างแน่นอน เพราะชีคือแบรนด์อันดับแรกเริ่มที่เข้ามาตีตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทกำจัดขนในเมืองไทย ชีเลยกลายเป็นเบอร์ต้น ๆ ทำให้คนส่วนใหญ่จะคิดถึงแต่เค้าเป็นอันดับแรก ๆ ไปเลยแม่ และสำหรับ Veet เอง เขามีหลากหลายสูตรให้เลือกค่ะ แต่สูตรที่ส่วนตัวชอบบบมากที่สุด จะเป็น Veet สูตร Silk & Fresh ที่มี 2 สูตรย่อย ให้เลือกซื้อด้วยกัน คือ สูตรสำหรับผิวบอบบางโดยเฉพาะ (สีฟ้า) และสูตรสำหรับผิวธรรมดา (สีชมพู) ค่าา
โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของสูตร Silk & Fresh ทั้ง 2 ตัวนั้น จุดเด่นจะเน้นเรื่องการผลัดเซลล์ผิว และทำให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน พร้อมทั้งปรับผิวให้เรียบเนียนได้สูงสุดถึง 7 วัน แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขนของแต่ละคนนะคะว่า จะเลือกใช้สูตรไหนดี โดยตัวสีฟ้าจะมีส่วนผสมของไฮโดรเรสเตอร์, อโลเวล่า และวิตามินอี จัดเต็มทั้งความชุ่มชื้นและอ่อนโยน จึงทำให้สูตรนี้เหมาะกับคนผิวบอบบางมากที่สุด และยังเหมาะสำหรับใช้บริเวณขนรักแร้ด้วยนะ ส่วนสีชมพู จะมีส่วนผสมของไฮโดรเรสเตอร์, โลตัสมิลล์ และจัสมิน ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดีมากก ส่วนวิธีใช้ ตัวสีฟ้าห้ามทิ้งไว้เกิน 10 นาที ส่วนตัวสีชมพูห้ามทิ้งไว้เกิน 6 นาที เพียงแค่นี้ ก็จะขจัดขนพร้อมทั้งบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นค่าา
| จุดเด่น | โดดเด่นเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ผิวเนียนสูงสุด 7 วัน แต่ละสูตรจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป |
| สารบำรุง | สีฟ้า – มีไฮโดรเรสเตอร์ อโลเวล่า และวิตามินอี / สีชมพู – ไฮโดรเรสเตอร์ โลตัสมิลล์ และจัสมิน |
| ระยะเวลาในการใช้ | สีฟ้า ห้ามทิ้งไว้เกิน 10 นาที / สีชมพู ห้ามทิ้งไว้เกิน 6 นาที |
| เหมาะสำหรับ | สีฟ้า สำหรับผิวบอบบาง / สีชมพู สำหรับผิวธรรมดา |
| สัญชาติ | ปากีสถาน |
4. ยี่ห้อ Veet สูตร Brightening
ราคาโดยประมาณ 100 บาท ต่อ 25 g
บอกแล้วว่า Veet เค้ามีสูตรเยอะให้เลือกเยอะจริง ๆ ซึ่งสำหรับใครที่ผิวไม่ได้บอบบาง แพ้ง่ายจนน่ากังวลอะไรขนาดนั้น อยากลองอะไรที่มันว้าว ๆ เน้นเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวกาย อยากขาขาวเนียนออร่ากระจาย ต้องแนะนำเป็น Veet สูตร Brightening หรือสูตรผสมไมโครบีดส์กันเลยค่ะ! ก็เรื่องกำจัดขนหายห่วง Veet ซะอย่างช่วยขจัดขนได้เป็นอย่างดี และง่ายดายอย่างแน่นอน แถมสูตรนี้พ่วงเรื่องขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนอีกด้วยจ้า
และคุณคนนี้ จะเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ผิวธรรมดาไปจนถึงผิวแห้งค่ะ แต่ใครที่กำลังกังวลกลัวว่า ผิวจะแห้งแตกจนแสบผิวก็ไม่ต้องห่วงเลย เค้าชุ่มชื้นมากพออยู่ และที่สำคัญพอขนไม่มี บวกกับเซลล์ผิวเก่าถูกกำจัดออกอย่างอ่อนโยนแล้ว ก็ได้เวลาของการเผยผิวใสค่ะ ซึ่ง Veet สูตรนี้ จะทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้นทุกครั้งหลังการขจัดขนเลย และสำหรับวิธีการใช้งาน ก็เหมือนกับ Veet ตัวอื่น ๆ ค่ะ แค่เพียงทาทิ้งไว้ห้ามเกิน 5 นาที แล้วปาดทำความสะอาดต่อ แค่นี้เองค่า
| จุดเด่น | ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ผิวขาวขึ้น กระจ่างใสเรียบเนียนทุกครั้งหลังใช้งาน แต่ยังคงความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่ |
| สารบำรุง | ผสมไมโครบีดส์ |
| ระยะเวลาในการใช้ | ห้ามทาทิ้งไว้เกิน 5 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา ผิวแห้ง |
| สัญชาติ | ปากีสถาน |
5. ยี่ห้อ Veet สูตร Naturals
ราคาโดยประมาณ 75 บาท ต่อ 25 g
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ต้องขอพูดถึง Veet อีกหนึ่งสูตร ซึ่งเป็นสูตรที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความอ่อนโยนจากธรรมชาติแบบสุด ๆ ต้องขอแนะนำคุณ Veet สูตร Naturals กันเลยค่าา โดยคุณคนนี้ ก็จะมีมาให้เลือกซื้อ 2 สูตรย่อยอีกเช่นกันค่ะ เวลาเลือกซื้อก็เอาตามชอบเลยว่า อยากจะได้สูตร Naturals คามิลเลีย ซีด ออยล์ หรือสูตร Naturals พาพายา เอ็กแทร็กซ์ ที่มีความเป็นธรรมชาติทั้งคู่ แต่เรื่องคุณสมบัติก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ
สำหรับตัวคามิลเลีย ซีด ออยล์ ชัดเจนว่า ต้องมีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดคามิลเลีย ซึ่งเค้าจะเข้ามาช่วยให้การกำจัดขนอ่อนโยนมากขึ้น เหมาะกับใครที่มีผิวบอบบางมาก หรือขนรักแร้ก็ใช้ได้ ส่วนสูตรเนเชอรัล พาพายา เอ็กแทร็กซ์ จะมีสารสกัดจากมะละกอเป็นหลัก จุดเด่นสำคัญก็คือ เค้าจะช่วยขจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ไวในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น ก็ใครที่เร่งรีบ ๆ หรือไม่ชอบเสียเวลา ตัวนี้เหมาะมากก แถมยังช่วยในเรื่องเผยผิวให้ดูกระจ่างใส เนียนนุ่มน่าสัมผัสอีกด้วยนะ ส่วนกลิ่นทั้งคู่ก็มีกลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ ช่วยให้ผ่อนคลายเวลาขจัดขนอีกด้วย คือเริ่ดดดดดเด้อ !
| จุดเด่น | โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยบำรุงผิว มีให้เลือก 2 สูตร มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป |
| สารบำรุง | สูตรผสมน้ำมันเมล็ดคามิลเลีย , สูตรผสมสารสกัดจากมะละกอ |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที |
| เหมาะสำหรับ | สูตรน้ำมันเมล็ดคามิลเลีย สำหรับผิวแพ้ง่าย บอบบาง, สูตรมะละกอ สำหรับผิวธรรมดา |
| สัญชาติ | ปากีสถาน |
6. ยี่ห้อ EPILAT HAIR REMOVING BODY CREAM
ราคาโดยประมาณ 430 บาท ต่อ 150 g
สำหรับใครที่ไม่ปลื้มกับกลิ่นแปลก ๆ ของครีมกำจัดขนเอาซะเลย ชอบแบบมีกลิ่นหอม ๆ กันมากกว่า ก็คงต้องขอเอาใจคนเหล่านี้กันสักหน่อยด้วยคุณ EPILAT HAIR REMOVING BODY CREAM กันเลยค่า โดยคุณเค้าจะมาพร้อมกับกลิ่นหอมสไตล์ Fruity Flora ที่มีความเป็นดอกไม้กับผลไม้ผสม ๆ กัน มีกลิ่นหอมน่ารัก ๆ ที่หอมติดผิวมากกก แถมไม่เหม็นฉุน ดีงามต่อใจเหมือนการใช้น้ำหอมราคาแพงกันเลยทีเดียว ก็ใครที่เป็นสายหวาน สายแซ่บ ชอบใช้น้ำหอมเป็นทุนเดิม ต้องติดใจตัวนี้แน่นอนค่าา
มากันที่ส่วนผสมของคุณเค้ากันหน่อย โดยชีก็จะอุดมไปด้วยสารสกัดจากเชียร์บัตเตอร์, แมคคาเดเมียออยล์, สารสกัดคาโมมายด์ และสาหร่ายทะเล ที่แต่ละตัวเน้นเรื่องความชุ่มชื้น บำรุงผิวให้เนียนนุ่มกันทั้งนั้น ซึ่งพอใช้กำจัดขนเสร็จ เส้นขนหายเกลี้ยงหมด ถ้าได้ลองลูบ ๆ ผิวดูนี่อย่างฟินน ส่วนการใช้งานก็ง่ายมากก จะใช้ตอนผิวแห้งหรือผิวเปียกระหว่างอาบน้ำก็ได้ แถมภายในกล่องมีไม้พายสำหรับปาดครีมและขนออกให้ด้วย สมกับเป็นสินค้าจากญี่ปุ่นที่คิดค้นเรื่องการใช้งานมาอย่างดีค่าา
| จุดเด่น | ครีมกำจัดขนที่มอบการบำรุงผิวไปไหนตัว กลิ่นหอมสไตล์น้ำหอมหรูแนว Fruity Flora ไม่เหม็นฉุน หอมติดผิว ช่วยผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม |
| สารบำรุง | สารสกัดจากเชียร์บัตเตอร์ แมคคาเดเมียออยล์ สารสกัดคาโมมายด์ และสาหร่ายทะเล |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ได้ 5 – 10 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
| สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
7. ยี่ห้อ MISTINE DE-ZER UNDERARM HAIR REMOVER CREAM
ราคาโดยประมาณ 59 บาท ต่อ 25 g
เชื่อแล้วจ้าา ว่ามิสทีนเค้ามีทุกอย่างจริง ๆ ล่าสุดอยากได้ครีมกำจัดขนถูกและดีสักตัว นางก็มีให้แล้วจ้าา คุณคนนี้ก็คือ MISTINE DE-ZER UNDERARM HAIR REMOVER CREAM ค่ะ เป็นครีมกำจัดขนใต้วงแขนสูตรอ่อนโยนแบบสุด ๆ เป็นไอเท็มที่เน้นเพื่อเผยผิวใต้วงแขนให้กระจ่างใส เรียบเนียนโดยเฉพาะ แถมยังใช้งานง่ายมากกก เคลียร์ทุกขนจบ เก็บเกลี้ยง ไม่ทิ้งตอกันอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้จำกัดแค่สำหรับจัดการขนรักแร้เท่านั้นนะ ยังสามารถใช้ได้กับแขน ขา และส่วนขาหนีบอีกด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องคุณสมบัตินั้น ก็ไม่ไก่กานะบอกเลย โดยคุณคนนี้ออกฤทธิ์เร็วมากก ใช้เวลาเพียงประมาณ 3 นาที ก็จำกัดขนเกลี้ยงแล้ว (ขึ้นอยู่กับความหนาของเส้นขนนะ หากขนยังไม่หลุดทิ้งเนื้อครีมต่อไปได้ แต่ห้ามเกิน 15 นาที) ซึ่งภายในครีมก็อุดมไปด้วยสารบำรุงมากมาย ตั้งแต่ Gymnema Sylvestre Leaf Extract และ Mushroom Extract ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ไม่เป็นหนังไก่ และยังมี 4-Butyresorcinol, Niacinamide, Almond Oil และ Vitamin E มารวมพลังช่วยกันให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น แลดูสุขภาพดี อีกทั้งราคาถูก ไม่ถึงร้อย แต่ได้คุณสมบัติเบอร์นี้มา ไม่คุ้มสุด ๆ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วววจ้าา
| จุดเด่น | ครีมกำจัดขนใต้วงแขนสูตรอ่อนโยน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ไม่เป็นหนังไก่ ทำให้ผิวกระจ่างใส สม่ำเสมอ และชุ่มชื้น |
| สารบำรุง | Gymnema Sylvestre Leaf Extract, Mushroom Extract, 4-Butyresorcinol, Niacinamide, Almond Oil และ Vitamin E |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ 3 – 15 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
| สัญชาติ | ไทย |
8. ยี่ห้อ Farbera Rapid Smooth Hair Removal Cream
ราคาโดยประมาณ 149 บาท ต่อ 50 g
เป็นอีกหนึ่งตัวปัง แล้วก็ดังเรื่องกำจัดขนมานาน สำหรับแบรนด์ Farbera ซึ่งเค้าก็ได้ปล่อยครีมกำจัดขนสูตรอ่อนโยนถูกใจสายธรรมชาติอย่าง Farbera Rapid Smooth Hair Removal Cream หลอดสีเหลืองดำสุดเท่ออกมาค่ะ โดยเป็นทั้งตัวช่วยกำจัดขนแบบรวดเร็ว ใช้งานง่าย อ่อนโยนสุด จะใช้ที่ขนรักแร้ก็ไม่ต้องห่วง และยังมอบการบำรุง พร้อมกับช่วยแก้ปัญหาหนักใจที่มากับ “ขน” ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งเรื่องขนคุด ผิวด่างดำ ขนแข็งใหญ่ รูขุมขนกว้าง และหนังไก่ เค้าก็ทำหน้าที่ฟื้นฟูและปกป้องได้แบบไร้กังวล อีกทั้งยังไม่มีเรื่องกลิ่นเคมีมากวนใจ ก็งานดีงานพรีเมี่ยมสุด ๆ ค่าา
มากันที่สารสกัดภายในของคุณเค้ากันหน่อยค่ะ ตัวนี้จะเน้นไปที่การใช้ “น้ำผึ้งธรรมชาติ” ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Farbera เค้าเลย และยังมาพร้อมกับสารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์ โดยทั้ง 2 จะมารวมพลังช่วยกันทำหน้าที่ขจัดขน และมอบการบำรุงผิวสูงสุดถึง 3 ประการ คือ คืนความชุ่มชื้นให้ผิว ปกป้องการเสื่อมสภาพของผิว และสุดท้ายสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวแข็งแรง ส่วนขนที่ขึ้นมาใหม่ก็บางเบา ไม่แข็ง ไม่หนา วิธีใช้ก็เหมือนครีมกำจัดขนทั่วไปค่ะ ทาทิ้งไว้เพียง 5 นาที ขนหายเกลี้ยง ลองดู แล้วจะเลิฟ ๆ ค่า
| จุดเด่น | ใช้งานง่าย อ่อนโยน มอบการบำรุงไปในตัว แก้เรื่องขนคุด ผิวด่างดำ ขนแข็งใหญ่ รูขุมขนกว้าง และหนังไก่ที่ตามมา คืนความชุ่มชื้นให้ผิว |
| สารบำรุง | น้ำผึ้งธรรมชาติ สารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์ |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ 5 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
| สัญชาติ | ไทย |
9. ยี่ห้อ MIMICOS Armpit Hair Remover Cream Sensitive Skin
ราคาโดยประมาณ 50 บาท ต่อ 50 g
อยากลองใช้ ไม่อยากซื้อหลอดใหญ่ราคาหลายร้อย มาจ้าา เดี๋ยวจะจัดให้ แนะนำครีมกำจัดขนจาก MIMICOS Armpit Hair Remover Cream Sensitive Skin ที่เป็นสูตรสำหรับผิวบอบบาง มีความอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ ก็ถ้าใครเคยแสบผิวจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่น ๆ มาลองคุณคนนี้ไม่มีเรื่องแสบ ๆ กันแน่นอน และยังสามารถกำจัดขนได้อย่างรวดเร็ว ทั้งขนรักแร้ใต้วงแขน หรือจะบริเวณผิวอ่อนโยนก็ได้หมด และหลังใช้ผิวก็เรียบเรียนน่าสัมผัสมากกกก แถมขนขึ้นใหม่ไม่แข็งด้วยค่ะ
ความเริ่ดอีกหนึ่งอย่างก็คือ คุณสมบัติในการบำรุงผิวของชีค่ะ เพราะนางมีสารสกัดจากธรรมชาติสูงถึง 15 ชนิด!! เลยทีเดียว โดยเฉพาะกรดไธโอไกลโคลิก และว่านหางจระเข้ ที่เข้ามาทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ลดหนังไก่ ไม่ระคายเคือง ทำให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนราคาก็ไม่แรงมาก ซองแค่ 50 บาท แต่ได้ถึง 50 g ก็ลองซื้อมาใช้กันดู ดีไม่ดี ติดใจ จนไม่เปลีย่นยี่ห้อกันเลยค่า
| จุดเด่น | เป็นซองเล็กราคาถูก พกพาง่าย อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ผิวเรียบเนียนหลังใช้ ขนขึ้นใหม่ไม่แข็ง ผิวชุ่มชื้น ลดหนังไก่ ไม่ระคายเคือง |
| สารบำรุง | กรดไธโอไกลโคลิก ว่านหางจระเข้ สารสกัดจากธรรมชาติ 15 ชนิด |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ผิวบอบบาง |
| สัญชาติ | ผลิตประเทศเกาหลีใต้ |
10. ยี่ห้อ O-derma
ราคาโดยประมาณ 490 บาท ต่อ 120 ml
สำหรับใครที่ไม่ชอบใช้แบบครีมเพราะมันปาดยาก กว่าจะทาทั่วรู้สึกช้า ไม่ทันใจ มาลองครีมกำจัดขนในรูปแบบมูสโฟมกันดูหน่อยเป็นไง คุณคนนี้ก็คือ O-derma มูสโฟมกำจัดขนตัวดัง ขายดีมากกกในโลกออนไลน์ ซึ่งจุดเด่นแรกก็ต้องความง่ายของเค้าเนี่ยล่ะ พอเป็นโฟมมูส การชะโลมให้ทั่วถึงก็ง่ายมากยิ่งขึ้น และตัวมูสก็อ่อนโยนมากกก ไม่มีกลิ่นเคมีฉุนจมูกเหมือนครีมกำจัดขนทั่วไป สามารถใช้ได้กับทุกส่วน จุดที่บอบบางมาก ๆ อย่าง ขนรักแร้ก็ใช้ได้ ขวดเดียวคือขนเกลี้ยง บวชชีทั้งตัวไปเลยจ้าา (แต่ต้องยกเว้นใบหน้านะ ส่วนนี้ใช้ไม่ได้ค่าาา)
มาที่คุณสมบัติเพิ่มเติมกันหน่อยค่ะ มูสตัวนี้ช่วยให้ขนละลายหลุดง่าย ๆ แบบไม่เป็นตอ ไม่ทำให้เกิดขนคุด แถมขนขึ้นใหม่ยังบางลง ไม่คัน ช่วยชะลอการเกิดขนให้ช้าลงได้อีกด้วย ส่วนตัวมูสก็จะเป็นโฟมสีขาวนุ่มนิ่ม เกลี่ยงายมากก ทาทิ้งไว้ 10 นาที ก่อนเช็ดเอานิ้วลองวน ๆ ดูว่า ขนละลายออกมาจริง ๆ แล้วค่อยใช้กระดาษทิชชู หรือผ้าสีขาวเช็ดย้อนรูขุมขน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงแค่นี้เอง ง่ายมากกก แต่ถ้าใครที่กลัวแพ้ ขอแนะนำให้ลองทดสอบอาการแพ้ที่ข้อพับก่อนสัก 15 – 30 นาที ไม่แพ้ก็ใช้ต่อได้สบายใจค่าา
| จุดเด่น | เป็นมูสโฟมใช้งานง่าย เห็นขนที่หลุดออกมาชัด ไม่เกิดขนคุด ไม่คัน ขนขึ้นใหม่บางลง ชะลอการเกิดขน อ่อนโยนมากใช้ได้ทุกส่วนยกเว้นหน้า |
| สารบำรุง | สารบำรุงผิวเฉพาะแบรนด์, กลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทาทิ้งไว้ 10 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
11. ยี่ห้อ Angsskin Angs Hair Removel Cream
ราคาโดยประมาณ 149 บาท ต่อ 100 g
ใครแพ้เก่ง แพ้ง่าย แต่อยากกำจัดขนแบบ 5 4 3 2 บู้มมม ขนหายเกลี้ยง พร้อมโชว์ขาเนียน แนะนำตัวนี้เลยค่าา เค้าคือครีมกำจัดขน Angsskin Angs Hair Removel Cream ที่ใช้ง่ายมากกก แค่เริ่มจากทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เช็ดให้แห้งแล้วทาครีมตัวนี้ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้เพียง 10-15 นาที ไม่ต้องนวด ไม่ต้องถูใด ๆ หลังจากนั้นลองใช้นิ้วถู ๆ จุดใดจุดหนึ่ง ถ้าขนหลุดออกอย่างง่ายดายก็เรียบร้อย จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด หรือจะให้ใช้ผ้าขนหนูเปียก หรือแผ่นที่แนบมากับผลิตภัณฑ์เช็ดออกก็ได้ค่ะ
มากันที่ส่วนผสมกันหน่อยค่ะ ที่บอกว่าคุณเค้าทำออกมา เพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ก็เพราะว่าตัวชีเอง เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดขนที่ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแบบแน่น ๆ เน้น ๆ ไม่ว่าจะ น้ำมันดอกคามีเลียและโปรตีนไหม ที่จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นเนียนนุ่ม พร้อมด้วยสารสกัด Larrea Divarricata จากต้นชาพารอล ที่จะช่วยทำให้เส้นขนที่เกิดใหม่มีความอ่อนนุ่ม ไม่เป็นตอ ไม่แข็งเหมือนโกนทิ้ง และยังช่วยให้เส้นขนใหม่ลดน้อยลงด้วย ก็ตอบโจทย์ทั้งเรื่องกำจัดขนไม่พอ ยังช่วยเรื่องการบำรุงทำให้ผิวเนียนสวยชุ่มชื้นมากขึ้นอีกด้วย ส่วนราคาก็ไม่แรงมากก ผลิตภัณฑ์ก็มาจาเกาหลีใต้อีก ก็ถ้ายังไม่รู้จะซื้อ ครีมกำจัดขน ยี่ห้อไหนดี ลอง Angsskin ก่อน ก็ดูเป็นไอเดียที่ดีค่า
| จุดเด่น | ใช้งานง่าย อ่อนโยน ขนหลุดไว อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้ขนเกิดใหม่อ่อนนุ่ม ลดน้อยลง ไม่เป็นต่อ ผิวชุ่มชื้น |
| สารบำรุง | น้ำมันดอกคามีเลีย โปรตีนไหม และสารสกัด Larrea Divarricata จากต้นชาพารอล |
| ระยะเวลาในการใช้ | ทิ้งไว้ได้ 10 – 15 นาที |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
ไงจ๊ะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่สนใจ ก็หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “ครีมกำจัดขน” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อ 10 หลอดด้วยกัน ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน ครีมหลอดไหน ไปใช้จัดการเส้นขน ขจัดขน ไปถอนรากถอนโคนเส้นขนกันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีความน่าสนใจหลายตัวเลยทีเดียว บางยี่ห้อก็อ่อนโยนมากก มีแต่ส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ เหมาะสำหรับผิวบอบบาง หรือบริเวณขนรักแร้กันสุด ๆ หรือบางยี่ห้อเองก็มีหลายสูตรมากกก จะสูตรช่วยผิวขาว สูตรธรรมชาติ หรือสูตรอ่อนโยน ก็มีให้เลือกซื้อกันด้วย ยังไงก็ขอให้ได้ ครีมขจัดขน ยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ ปัญหาเส้นขนต่าง ๆ ลดน้อยลงกันด้วยค่าาา
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง