เครื่องสำอางเค้าเตอร์แบรนด์จากฝรั่งเศษที่ใครไม่รู้จักต้องยกให้คุณ Dior ที่นอกจากพวกเสื้อผ้าแล้วเนี้ย พวกน้ำหอมหรือเครื่องสำอางเค้าก็ดีมาก ๆ ทั้งยังได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ กันเลยละ ไม่ว่าจะเป็น รองพื้น แป้งพัฟ รวมไปถึงสกินแคร์ต่าง ๆ โดยจุดเด่นของเค้าคือสารสกัดส่วนใหญ่จะได้จากดอกไม้เป็นหลัก ทำให้คนที่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ดี ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้ และแน่นอนว่าปีนี้ จะมี เครื่องสำอาง Dior ตัวไหนดี ตัวไหนปังกันบ้างนั้น ก็ตามเรามาดูกันเลยค้าาาา
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว เครื่องสำอาง Dior ตัวไหนดี อะไรน่าใช้
สำหรับใครที่อยากจะเห็นเครื่องสำอางคุณ Dior แบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมา เพื่อทำการเปรียบเทียบประเภท จุดเด่น ส่วนผสม ความรู้สึกหลังใช้ หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มสีแดงด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันได้เลยค่ะ
1. Dior Forever Natural Velvet Compact Foundation
ราคาโดยประมาณ 2,990 บาท
ครั้งนี้จะมาบอกบุญสาว ๆ กันด้วย Dior แป้งผสมรองพื้นเนื้อแมทต์แบบที่ไม่มีหลุดเลือนระหว่างวัน ชีเริ่ดเด้อ !! โดยชีเป็นแป้งสูตรแรกจากดิออร์ Dior Forever Natural Velvet ที่ติดทนตลอดวันจริง ๆ นะตัวเธอ และยังประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 90% มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและนุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยสร้างผิวสวยสมบูรณ์แบบที่ดูแมตต์อย่างเป็นธรรมชาติ และเนื้อครีมที่เนียนละเอียดนี้เอง ก็จะช่วยให้ผิวได้หายใจและมอบความรู้สึกสบายแก่ผิวยาวนานตลอดวันค่ะ
อีกทั้งชียังมาพร้อมความปกปิดขั้นสูงที่จะช่วยอำพรางจุดบกพร่อง ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอ รวมถึงอุดมด้วยส่วนผสมจากดอกไม้นานาชนิดที่ช่วยบำรุงผิว เช่น สารสกัดจากดอกไอริสที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิว สารสกัดจากดอกกุหลาบเพื่อช่วยให้รูขุมขนแลดูกระชับ สารสกัดจากดอกแพนซีป่าเพื่อช่วยคงความชุ่มชื้น และสารสกัดอื่น ๆ อีกมากมาย ก็ใครที่อยากผิวสวย ปกปิดร่องรอยความชั่วร้าย และต้องการการบำรุง ต้องจัดชีคนนี้กันด่วน ๆ จ้า
ประเภท | แป้งอัดแข็ง |
จุดเด่น | คุมมันตลอดวันและมีสารสกัดบำรุงผิวหน้า |
ส่วนผสม | สารสกัดจากดอกไอริส, สารสกัดจากดอกกุหลาบ, สารสกัดจากดอกแพนซีป่า และสารสกัดอื่น ๆ |
หลังใช้ทันที | หน้าเนียนปกปิกรูขุมขนได้ดี คุมมันตลอดวัน บางเบาไม่หนักหน้าทำให้ดูเป็นที่เนียนอย่างธรรมชาติ |
เฉดสี / เนื้อ | 8 เฉดสี / เนื้อแมทต์ |
2. Dior Forever No-Transfer 24h Wear Matte Foundation
ราคาโดยประมาณ 2,600 บาท
เมื่อพูดถึงแบรนด์นี้แล้ว จะไม่พูดถึงรองพื้นตัวปังที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน อย่าง Dior Forever No-Transfer 24h Wear Matte Foundation ไปได้อย่างไรล่ะคะ ก็บอกเลยว่ารุ่นนี้เค้าเป็นตัวชูโรงอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ โดยชีมีเอกลักษณ์ของดิออร์ที่ทาแล้วไม่หลุดเลือนระหว่างวัน หน้าก็เด้งผ่องเป็นยองใย ไม่มีเยิ้ม ไม่มีแครก มอบผิวสมบูรณ์แบบติดทนนาน 24 ชั่วโมง และยังผ่านการทดสอบกับความร้อน เหงื่อ และความชื้น มอบฟินิชแบบแมตต์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ช่วยให้ผิวหน้าแลดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน และช่วยให้รูขุมขุนกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยแม่ !!
และด้วยสูตรที่ประกอบด้วยสกินแคร์จากดอกไม้ 86% ทำให้รองพื้นสูตรน้ำนี้จะมอบความสบายที่คงทนแก่ผิว ให้ผิวได้หายใจพร้อมช่วยปรับสภาพผิวในระยะยาว และยังช่วยเผยผิวสวยเมื่อใช้ต่อเนื่องทุกวันด้วยสารสกัดจากดอกไอริส ดอกแพนซี่ป่า กุหลาบ และนัซเทอร์ฌัม นอกจากนี้ก็ไม่อุดตันรูขุมขน ผ่านการทดสอบกับผิวแพ้ง่าย แล้วรู้หรือไม่ว่านอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB เค้ายังช่วยป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าอีกด้วย คือถือเป็นเครื่องสำอาง Dior ที่สาว ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ !
ประเภท | รองพื้นแบบน้ำ |
จุดเด่น | รองพื้นที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวและช่วยป้องกันรังสีสีฟ้าได้ |
ส่วนผสม | สารสกัดจากดอกไอริส ดอกแพนซี่ป่า กุหลาบ และนัซเทอร์ฌัม |
หลังใช้ทันที | ปกปิดรอยดำแดง และริ้วรอยได้อย่างเรียบเนียน ให้นิชลุคที่ดูแมท คุมมันได้ดี |
เฉดสี / เนื้อ | 14 เฉดสี / เนื้อแมท |
3. J’Adore Parfum D'Eau Eau De Parfum
ราคาโดยประมาณ 5,300 บาท
J'adore Eau De Parfum หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ EDP น้ำหอมกลิ่นยอดฮิตที่โดดเด่นในเรื่องการให้กลิ่นแน่นติดทนนาน โดยกลิ่น Top note จะเป็นกลิ่นมะลิลา เนโรลี และแมกโนเลีย ซึ่งมีความหอมสดชื่นแบบฟลอรัล และซ่อนด้วยกลิ่นอันเย้ายวนอ่อน ๆ ของกลิ่นหอมหวานจากดอกกุหลาบ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงที่มีความอ่อนโยน ดูมีเสน่ห์ เดินผ่านทีนึงต้องมีเหลียวหลังกันบ้างแหละ ยิ่งใครฉีดก่อนไปงานปาร์ตี้ หรืองานอะไรก็ตามแต่ จะดูเป็นคนมีเทสขึ้นมาทันที บอกเลยกลิ่นนี้ must have มาก ๆ
สำหรับแพคเกจขวดจะมีสีขาวขุ่น แต่ยังคงมีความหรูหราสไตล์ J’adore โดยมีทั้งหมด 2 ขนาด คือ 50 ml. และ 100 ml. อีกทั้งตัวนี้สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ DIOR แต่กลิ่นยังติดทนตลอดทั้งวันด้วยความเป็น eau de parfum ส่วนตัวชอบกลิ่นนี้มาก เพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มีความสดชื่น ละมุน แถมขวดก็สวยมากๆ บอกเลยใครที่เป็นแฟน J’adore ขวดนี้ยังไงก็ต้องโดนค่ะ
ประเภท | น้ำหอม |
จุดเด่น | ปราศจากแอลกอฮอร์ |
ส่วนผสม | มะลิลา เนโรลี และแมกโนเลีย |
หลังใช้ทันที | กลิ่นติดทนนานตลอดวัน |
ปริมาณ | 50 ml. / 100 ml. |
4. Dior Forever Couture Luminizer Highlighter
ราคาโดยประมาณ 2,300 บาท
ไฮไลท์สวยฉ่ำตาแตกแบบคุณลูกคุณอันดับ 1 ในใจ ต้องยกให้ Dior Forever Couture Luminizer ที่หลายคนอยากแต่งหน้าให้ดูผิวสุขภาพดี มีมิติ เวลาหันซ้าย หันขวา ต้องสวยทุกมุม โดยชีเป็นไฮไลท์เนื้อชิมเมอร์ ที่ดูสวยแพงไม่ไหว เรียกว่าเป็นไอเท็มหลักที่ต้องมี ช่วยให้ลุคดูฉ่ำโกลว์มีมิติ และเมื่อโดนแสงแล้วก็จะช่วยให้ผิวเปล่งประกายดีมาก หรือสามารถใช้เป็นบลัชออนหรือไฮไลท์ก็ได้ คุ้มค่าสุด ๆ ค่ะ
ส่วนตัวตลับแพคเกจด้านนอกก็เป็นหนังสีครีมเงา ๆ หรูหราหมาเห่าสุด เปิดมาข้างในจะเจอเนื้อไฮไลท์ที่มีความโกลว์ประกายมุก ไม่ใช่กลิตเตอร์เม็ดใหญ่ ๆ แต่เป็นความแวววาวแบบมีมิติของเม็ดสีที่มาจากธรรมชาติ 95% ลงผิวแล้วก็ไม่เป็นคราบ ปัดง่าย แค่ปัดเบา ๆ คือสีชัดแบบโอ้วมายกอช ส๊วยย ! และรุ่นนี้เค้าทำออกมา 4 เฉดสีด้วยกันนะ 01 Nude Glow จะออกนู้ด ๆ หน่อย, 02 Pink Glow ก็จะมีความชมพูประกายเบา ๆ ส่วน, 03 Pearlescent Glow จะเป็นโทนประกายขาวมุก ออร่า ๆ ไว้เฉดสันจมูกพุ่ง ๆ สุดท้ายคือ 04 Coral Glow โทนส้มทองสำหรับสาวแก่นเซี้ยงเปรี้ยวซ่าจะต้องเลิฟ ก็ชอบเฉดไหนก็จัดไปค่า
ประเภท | ไฮไลท์เตอร์ |
จุดเด่น | ไม่หลุดง่าย ติดทนนาน |
ส่วนผสม | ดอกแพนซี่ป่าสกัด |
หลังใช้ทันที | ใบหน้าดูสว่างขึ้นแบบมีมิติ เล่นแสงได้ดี ติดทนนานตลอดวัน |
เฉดสี / เนื้อ | 4 เฉดสี / มีกลิตเตอร์ไข่มุกแบบละเอียด |
5. One Essential Intense Skin Purifying Booster Serum
ราคาโดยประมาณ 5,400 บาท
สายสกินแคร์ของ Dior ก็ต้องมาทางนี้แหละจ้า ตัวนี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้ากันเท่าไร แต่สำหรับสาวกดิออร์ต้องยอมสิโรราบให้กับ One Essential Intense Skin Purifying Booster Serum ซุปเปอร์เซรั่มฟื้นฟูสภาพผิว ให้ผิวแข็งแรงต่อต้านมลภาวะได้เป็นอย่างดี โดยเนื้อเซรั่มเค้าสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถช่วยซ่อมแซมผิวได้อย่างเต็มที่ พร้อมเร่งประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ในขั้นตอนต่อไปให้มีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
และ ONE ESSENTIAL ก็มีส่วนผสมจากสารสะกัดเข้มข้นจาก ชบาแดง (Red Hibiscus essence) ที่จะมาช่วยฟื้นบำรุงผิวและช่วย Detox ผิวเก่าให้เหมือนได้ผิวใหม่ ริ้วรอยบนใบหน้าดูจางลง ผิวกระชับ เรียบเนียนสวย กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไปเลยแม่คุณ !
ประเภท | สกินแคร์ |
จุดเด่น | เซรั่มเนื้อบางเบา ซึมง่าย |
ส่วนผสม | Dimethylmethoxy Chromanol, Sodium Tocopheryl Phosphate, Tocopherol |
หลังใช้ทันที | เซรั่มซึมเข้าสู่ผิวง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
เฉดสี / เนื้อ | – |
6. Capture Totale Super Potent Cleanser Anti-Pollution Cleansing and Purifying Foam
ราคาโดยประมาณ 2,250 บาท
มาแรงแซงทางโค้งแบบไม่หยุดหย่อน ยังคงดำรงตำแหน่งคลีนเซอร์โฟมที่สุดแสนจะเพอร์เฟคอย่าง Dior เอาไว้ได้เสมอ กับผลิตภัณฑ์ ในไลน์ทำความสะอาดผิวหน้าของ Capture Totale Super Potent Cleanser Anti-Pollution Cleansing and Purifying Foam ชื่ออย่างยาว แต่ประสิทธิภาพก็ยาวไม่แพ้กัน ซึ่งบอกเลยว่าตัวนี้พัฒนามาแบบดีเยี่ยมและอยู่ในคอลเลคชั่นของ Capture Totale ที่เป็นไลน์ขายดีมาก ๆ ของ Dior อีกด้วยน้า
โดยตัวคลีนซิ่งโฟมตัวนี้ เค้าจะช่วยขจัดสารปนเปื้อน ฝุ่น ควัน และมลภาวะต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ได้สะอาดหมดจด รวมถึงมีส่วนผสมจากธรรมชาติมากถึง 83% ซึ่งอ่อนโยนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดลองโกซาจะช่วยหล่อเลี้ยงสมรรถนะในการปกป้องตัวเองของหนังกำพร้า ในขณะที่สารสกัดจากมะรุมมอบประสิทธิภาพทำความสะอาด ขจัดอณูสารมลภาวะตกค้างได้ และหลังใช้คือสบายผิวมาก หน้าชุ่มชื้นสุด ๆ ดีงามพระรามเก้าสมกับเป็นของจาก Dior กันเลยค่าา
ประเภท | คลีนซิ่งโฟม |
จุดเด่น | โฟมล้างสามารถล้างเครื่องสำอางในตัว |
ส่วนผสม | YUKA GREEN, LONGOZA EXTRACT, MORINGA EXTRACT |
หลังใช้ทันที | ล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด หน้าไม่แห้งตึง ผิวชุ่มชื้นนาน 6 ชม. |
เฉดสี / เนื้อ | – |
7. Dior Forever Cushion Glow
ราคาโดยประมาณ 2,750 บาท
อยากผิวโกลว์ใสแบบกราสสกินต้องนี่เลย คุชชั่นตัวแม่จะแคร์เพื่ออย่าง Dior Forever Cushion Glow โดยตัวนี้เป็นไอเท็มที่ต้องมีติดตัวอย่างมากค่ะซิส เพราะนอกจากจะปกปิดผิว ทำให้เรียบเนียนแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวไปอีก บอกเลยว่า ครบ จบ ในตัวเดียวจริง ๆ อีกทั้งตัวแพคเกจตลับภายนอกก็จะเป็นหนังสีดำเงาตามชื่อรุ่น แตกต่างจากรุ่นเก่าที่เป็นดำด้าน ซึ่งขอบอกเลยว่า หรูหรา สวยงามมากๆ แค่เห็นก็ประทับใจกับแพคเกจแล้วจ้า
ส่วนเนื้อสัมผัสก็บางเบา ไม่หนักผิว ไม่จำเป็นต้องลงสกินแคร์ แค่ลงคุชชั้นตัวนี้ก็เหมือนลงสกินแคร์ไปในตัวเลย พร้อมทั้งมี SPF50 PA+++ มาช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ส่วนการปกปิดในระดับปานกลาง ถ้าพวกรอยฝ้ากระปิดได้ดีเยี่ยม ยกเว้นพวกรอยแผลสิว ที่ต้องใช้คอนซีลเลอร์ปิดอีกรอบนะ และส่วนประกอบหลัก ๆ ก็จะเป็น ดอกแพนซี่ ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง โรส ฟรุท เอ็กแทร็กซ์ ปกป้องผิวจากมลภาวะ และ โรส เอ็กแทร็กซ์ ช่วยเบลอรูชุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน เด้งตลอดวันจ้า
ประเภท | Cushion |
จุดเด่น | คุชชั่นเนื้อบางเบาแต่ปกปิดได้ดีมาก มีสารบำรุงในตัว |
ส่วนผสม | สารสกัดจากดอกแพนซี่, โรส ฟรุท เอ็กแทร็กซ์, โรส เอ็กแทร็กซ์ |
หลังใช้ทันที | เนื้อคุชชั่นเกาะผิวได้ดี ไม่ค่อยคุมมันระหว่างวัน |
เฉดสี / เนื้อ | 3 เฉดสี / เนื้อโกลว์ |
8. Rouge Dior Forever – Transfer-Proof Lipstick
ราคาโดยประมาณ 1,700 บาท
ต้องขอหลบให้กับแบรนด์ลิปสติกไฮโซ ไฮใจนี้เลยจริง ๆ ค่ะ สำหรับลิปรุ่น Rouge Dior Forever ที่เค้าเคลมว่าไม่มีหลุด ไม่มีเลือน ผสานเม็ดสีเข้มข้นและอุดมด้วยการบำรุงจากดอกไม้ ติดทนนานถึง 16 ชม.ทุกคนนน โดยที่ยังคงความเบาสบาย ไม่หนักปาก ฟีลเหมือนไม่ได้ทา และยังมาพร้อมกับเฉดสีสไตล์กูตูร์ที่เข้มข้นกว่ารุ่นเดิมไปอีกกก
และรุ่นนี้จะให้ความชุ่มชื้นดีในระดับนึง แต่ถ้าปากแห้งแบบมาก ๆ อาจจะเอาไม่อยู่นะ แนะนำว่าก่อนทาลิปสติกใด ๆ ก็ตาม ให้ทาบำรุงบาง ๆ สักหน่อย เพราะบางทีไม่ว่าเจอลิปดีแค่ไหน แต่ถ้าผิวปากเราแห้งจริง ๆ ลิปอะไรก็เอาไม่อยู่นะจ๊ะ มาที่ส่วนผสมกันหน่อย รุ่นนี้เค้าผสานสารสกัดจากโจโจบาเพื่อความไหลลื่นระหว่างการทา และยังช่วยในเรื่องบำรุงริมฝีปากให้นิ่มอยู่ตลอดวัน อีกทั้งยังมีพอลิเมอร์ที่ช่วยเรื่องความติดทนของสีลิปสติกให้ติดแน่นยิ่งขึ้นไปอีกระดับ ส่วนราคาก็ตามแบรนด์กับคุณภาพ ให้คะแนนเต็มสิบ ๆ ไปเลยยยจ้า
ประเภท | ลิปสติก |
จุดเด่น | ติดทนนานถึง 16 ชม. / ปากเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังจากการทา |
ส่วนผสม | โจโจ้บาออยล์, สารบำรุงจากดอกไม้นานาชนิด |
หลังใช้ทันที | ริมฝีปากนิ่ม สีติดทนนาน |
เฉดสี / เนื้อ | 28 เฉดสี / เนื้อครีม |
9. Dior Backstage Face & Body Flash Perfector Concealer
ราคาโดยประมาณ 1,300
อยากดูผิวสวยแล้ว แต่มีจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง จากสมรภูมิรบ นอกจากจะมีรองพื้นที่คอยช่วยชีวิตเอาไว้แล้ว สาว ๆ อย่างเราก็ต้องมีอีก 1 ไอเท็มในการปกปิด นั้นก็คือเจ้าคอนซีลเลอร์ตัวเด็ดที่ไม่ป้ายยาไม่ได้จริง ๆ กับ Dior Backstage Face & Body Flash Perfector Concealer คอนซีลเลอร์ที่ใคร ๆ ลองก็ต้องกรีดร้องให้กับความเนียนกริปไม่มีโป๊ะ เพราะทั้งเนื้อครีมคุณภาพดีมาพร้อมกับตัวแปรงในตัวที่ปาดง่ายสุดใจค่ะ
ส่วนตัวเนื้อครีมก็ค่อนข้างนุ่ม เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบระหว่างวัน และยังสามารถปกปิดบริเวณรอยคล้ำใต้ดวงตาที่บอมช้ำ หรือบริเวณที่ต้องการการปกปิดเป็นพิเศษ และถึงจะปกปิดได้ดี แต่ยังคงดูบางเบาเป็นธรรมชาติ ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทากันเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะทาบริเวณใต้ดวงตา บริเวณรอยแดง หรือรอยคล้ำอื่น ๆ และถ้าสาว ๆอยากเพิ่มความสว่างให้ผิว ก็เอาไว้ทาบริเวณที่ต้องการเพิ่มไฮไลท์กับใบหน้าของเราก็ย่อมได้นะคะซิส เอาไว้ปัดให้หน้าพุ่ง ๆใช้ร่วมกับพวกบอนเซอร์ก็จะปังเข้าไปอีกจ้า
ประเภท | คอนซีลเลอร์ |
จุดเด่น | ปกปิดได้ดีมาก แต่มีความบางเบา ไม่รู้สึกหนักหน้า มีแปรงให้ในตัว |
ส่วนผสม | Paraben-free, Vitamins, Anti-oxidants, Oil-free |
หลังใช้ทันที | ปกปิดรอยคล้ำ รอยดำแดงได้ดี ไม่เป็นคราบระหว่างวัน เกลี่ยง่าย |
เฉดสี / เนื้อ | 8 เฉดสี / เนื้อครีม |
10. Backstage Face & Body Powder-No-Powder
ราคาโดยประมาณ 1,700 บาท
ใครอยากหน้าดูแพง ดูใสเหมือนเกิดมาบนกองเงินกองทองก็ต้องนึกถึง แป้งโปร่งแสงที่ช่วยควบคุมความมัน Backstage Face & Body Powder-No-Powder แป้งตัวนี้จะช่วยเซตเมคอัพและมอบความนุ่มนวลให้ผิวด้วยฟินนิชเนื้อแมตต์ผสานเจลเบส ทำให้แม้จะทัชอัปอีกกี่ครั้งเนื้อสัมผัสก็ยังดูบางเบาไปกับผิว และยังช่วยเบลอผิวให้ดูเนียนกับกระจ่างใส่อย่างเป็นธรรมชาติ ได้ลุคสาวลอนดอน ลอนใจ ไม่ไหวจ๊ะ
สำหรับเฉดสีของรุ่นนี้เค้าก็ทำออกมาให้สาว ๆ ได้เลือกเยอะพอควร และเข้ากับทุกโทนสีผิวของสาวเอเชียอย่างเรา ๆ ได้ดีมาก ช่วยให้ผิวดูแมตต์และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ติดทนนานตลอดทั้งวันให้ผลลัพธ์แบบไร้ฝุ่นผง ปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าได้บางจุด แต่ถ้าเป็นพวกรอยสิวตัวนี้จะไม่ค่อยปกปิดเท่าไรนะ จะช่วยในเรื่องช่วยคุมความมัน ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและเรียบเนียนขึ้นมากกว่า แต่ก็สามารถใช้ได้หลายรูปแบบ เป็นแป้งที่สามารถนำมาใช้เพียงอย่างเดียว หรือใช้หลังลงรองพื้นเพื่อทำให้ผิวแมตต์ขึ้นหลังจากลงเครื่องสำอางแล้วย่อมได้ค่า
ประเภท | แป้งเนื้อฝุ่นโปร่งแสง |
จุดเด่น | คุมมันและช่วยเซ็ตเครื่องสำอางให้ไม้หลุดระหว่างวันได้ดี |
ส่วนผสม | – |
หลังใช้ทันที | ปกปิดรอยคล้ำ รอยดำแดงได้ดี ไม่เป็นคราบระหว่างวัน เกลี่ยง่าย |
เฉดสี / เนื้อ | 8 เฉดสี / เนื้อครีม |
เป็นยังไงกันบ้างสาว ๆ กับ เครื่องสำอาง Dior ตัวไหนดี ที่เราได้รวบรวมมาให้ดูกันถึง 10 ตัว ก็บอกเลยว่าเครื่องสำอางของ Dior เค้านั้น ก็ปังสุด ๆ นอกจากจะช่วยเนรมิตให้คุณผู้หญิงสวยขึ้นแล้วเนี้ย เค้ายังมีสารบำรุงในตัวอีกด้วยนะ เรียกได้ว่า สวย ครบ บำรุง จบที่ Dior ไม่ต้องไปมองหาอะไรที่ไหนเพิ่มอีกแล้ว ก็แต่งหน้าสวย ๆ ตามด้วยน้ำหอม J’Adore สักเล็กน้อย แค่นี้ก็พร้อมออกตี้แล้วค้าาาา
จบการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ รู้สึกสนุกกับการเขียนรีวิวสินค้าหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะหนังสือ ของใช้ในบ้าน เน้นการเขียนรีวิวที่อ่านเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน