วิตามินบีรวม ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ วิตามินบีรวม ยี่ห้อไหนดี ช่วยอะไร กินตอนไหน รีวิว 10 ยี่ห้อ

ถ้ากำลังรู้สึกว่า ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ปวดหัว คิดงานต่าง ๆ ไม่ค่อยออก รวมถึงนอนไม่พอ นอนไม่ค่อยหลับ นอนมากแค่ไหนก็รู้สึกว่านอนไม่อิ่ม อีกทั้งยังรู้สึกว่า ชีวิตไม่มีความสุข รู้สึกจม ๆ ดาว ๆ แล้วกำลังเริ่มที่จะเป็นซึมเศร้า สาเหตุเหล่านี้ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายกำลังขาดสารอาหารอย่างวิตามิน B อยู่ก็ได้ครับ ซึ่งเจ้าวิตามิน B เนี่ยก็ดันแบ่งออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน แล้วจะทำยังไงให้ร่างกายได้รับวิตามิน B แบบง่าย ๆ ดีละ? ถ้างั้นก็คงต้องลองมาพึ่งพาอาหารเสริม วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) กันแล้ว ส่วนจะซื้อยี่ห้อไหนดีนั้น ลองไปดูรีวิวด้านล่างได้เลยครับ



ตารางเปรียบเทียบ วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบ วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ยี่ห้อไหนดี

เผื่อใครที่ไม่มีเวลา หรืออยากจะเห็นวิตามินบีรวมของแต่ละยี่ห้อมาเรียงเปรียบเทียบกันไปเลยว่า ยี่ห้อไหนให้วิตามิน B อะไรบ้าง และให้ปริมาณเท่าไร มีความน่าสนใจซื้อบ้างไหม เทียบกันให้เห็นแบบจะ ๆ ก็กดเข้าไปดูตารางที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ



1. ยี่ห้อ PARADIGM Vitalozenge

สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมวิตามินบีรวมที่ทานได้ง่าย ๆ และพกพาติดตัวได้สะดวก ๆ อยากให้ลองยี่ห้อ PARADIGM Vitalozenge กันเลยครับ เพราะตัวอาหารเสริม เขาทำมาในรูปแบบของเม็ดอมละลายในปาก จึงทำให้ทานง่ายมากกก เพียงแค่เปิดฝาแล้วหยิบอมใส่ปากก็จบ ไม่ต้องละลายน้ำ หรือดื่มน้ำตามให้ยุ่งยากเลย และที่สำคัญ มีรสชาติที่อร่อยให้เลือกซื้อกันอีกด้วย !! ไม่ว่าจะ กลิ่นมะม่วงและเสาวรส หรือกลิ่นสตรอเบอร์รีและเชอร์รี่ ซึ่งทั้งสอง ก็อร่อย หอมหวาน มีประโยชน์ รวมถึงดูดซึมง่าย และไม่มีน้ำตาล ไม่ต้องกลัวทำให้ฟันผุกันเลยครับ

ส่วนเรื่องสารอาหารก็แน่นอนว่า มีวิตามินบีรวมอย่างครบถ้วนนน (ดูวิตามิน B ทั้งหมดได้ที่ตารางเปรียบเทียบด้านบน) เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีวิตามิน C และ วิตามิน E เพิ่มเสริมมาให้ด้วย จึงให้ประโยชน์ที่ดีกว่า มากกว่า ยี่ห้อที่ให้แค่เฉพาะวิตามิน B รวมเท่านั้น นอกจากนี้ ตัวอาหารเสริมก็นำเข้าจากประเทศเยอรมัน จึงมั่นใจในเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพของสินค้ากันได้ ก็รวม ๆ แล้ว พกพาง่าย รสชาติอร่อย ช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา สามารถทานเสริมวิตามินได้ทุกที่ทุกเวลา หรือจะมีติดไว้ประจำที่โต๊ะทำงานก็ได้ เหมาะสำหรับทั้งวัยเรียนและวัยทำงานมาก ๆ ครับ

จุดเด่น

  • เม็ดอมละลายปาก อร่อย ทานง่าย
  • มีรสชาติให้เลือกตามความชอบ
  • พกพาง่าย เหมาะกับพกไปทำงาน
  • มีวิตามิน C, E เสริม

ข้อเสีย

  • มีรสชาติให้เลือกน้อย

2. ยี่ห้อ Mivolis DM Multivitamin 

ถ้ากำลังมองหาวิตามินบีรวมเม็ดฟู่ที่มีราคาย่อมเยาอยู่ละก็ ผมขอแนะนำยี่ห้อ Mivolis DM จากเยอรมันเลยครับ โดยยี่ห้อนี้เขาก็มีขายวิตามินเม็ดฟู่กันหลากหลายประเภท ถ้าอยากได้วิตามินบีรวมต้องรุ่น Multivitamin ฝาสีม่วงนะครับ อย่าซื้อผิดสีนะ

อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ย่อมเยานี้เอง (เม็ดฟู่ละประมาณ 3 บาท) ก็ทำให้ปริมาณของวิตามิน B แต่ละชนิดค่อนข้างน้อยด้วย แต่ที่เด่นกว่าใครก็คือมีวิตามิน C และ E ในปริมาณเล็กน้อยเสริมเพิ่มเข้ามา ซึ่งด้วยการที่ปริมาณของวิตามินทั้งหมดมีค่อนข้างน้อยนี่เอง ก็ถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้เหมาะมาก ๆ สำหรับการแบ่งทาน 2-3 เม็ดใน 1 วัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินต่าง ๆ ไปใช้ได้ทันด้วย และยังเหมาะสำหรับใครที่เบื่อการดื่มน้ำจืด ๆ ก็เอาวิตามินยี่ห้อนี้ไปละลายสิครับ จากน้ำจืด ๆ จะได้มีรสชาติและประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นมาเลยนะครับผม

จุดเด่น

  • เม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติดื่มง่าย อร่อย
  • ราคาไม่แพงมาก
  • ยอดขายสูงโคตร

ข้อเสีย

  • ความเข้มข้นค่อนข้างน้อย

3. ยี่ห้อ Kirkland Signature Super B Complex

อีกหนึ่งยี่ห้อวิตามินบีรวมที่น่าสนใจจากสหรัฐอเมริกากับ Kirkland Signature โดยถ้าดูจากชนิดและปริมาณของวิตามิน B ที่ตารางด้านล่างแล้ว จะเห็นว่ามีบางชนิดก็มากกว่าหรือน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ และไม่มีวิตามิน B8 เช่นกัน แต่ที่โดดเด่นกว่าใครคือมี B12 ค่อนข้างสูงมาก จึงแอบช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองได้ดีกว่า

อีกทั้งนอกจากวิตามิน B แล้ว ยังมีวิตามิน C เสริมเพิ่มเข้ามาด้วย จึงเป็นยี่ห้อที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากทานทั้งวิตามินบีรวมและวิตามิน C พร้อม ๆ กันโดยไม่ต้องไปหาซื้อแยก และที่พิเศษยิ่งกว่าคือมี โซเดียมและโพแทสเซียมซึ่งทั้งสองเป็นอิเล็กโทรไลต์ โดยสารอิเล็กโทรไลต์จะมาช่วยส่งสัญญาณของระบบประสาทจากสมองไปสู่กล้ามเนื้อต่าง ๆ ให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ และยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายอีกด้วย ประโยชน์เยอะขนาดนี้ รีบ ๆ ไปหาซื้อมาทานกันเถอะครับ

จุดเด่น

  • ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเข้มข้น
  • ได้ปริมาณเยอะ ขวดเดียวทานได้นาน ๆ
  • มีวิตามิน C, โซเดียม และโพแทสเซียมเสริม
  • มี B12 เข้มข้น

ข้อเสีย

  • เม็ดค่อนข้างใหญ่
  • ไม่มีขวดเล็กแบ่งขาย หากทานไม่หมด หรือเก็บไม่ดี อาจจะทำให้เสียของทั้งหมดได้เลย


4. ยี่ห้อ Clover Plus Multi B+ Ginkgo

4. ยี่ห้อ Clover Plus Multi B+ Ginkgo

ราคาโดยประมาณ 199 / 359 บาท ต่อ 30 / 60 แคปซูล

หลาย ๆ คนน่าจะรู้ว่าวิตามิน B นั้นมีหลายชนิดที่บำรุงสมอง แต่ถ้าอยากบำรุงเพิ่มเติมมากกว่าแค่วิตามิน B แนะนำว่าต้องลองยี่ห้อ Clover Plus ตัว Multi B+ Ginkgo เลยครับ เพราะนอกจากมีวิตามิน B รวมหลายชนิดแล้ว ยังเสริมสารสกัดจากใบแปะก๊วย 100 mg และโคลีน 100 mg ที่จะมาช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทเพิ่มเติมแบบสุด ๆ อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัลไซเมอร์, ขี้หลงขี้ลืม หรือสมองเสื่อมได้ด้วย เรียกได้ว่าบำรุงสมองได้ดีกว่าวิตามินบีรวมหลาย ๆ ยี่ห้อที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างแรงด้วยเช่นกัน ถ้าอยากเน้นบำรุงสมองและเรื่องงบไม่ใช่ปัญหา ก็จัดยี่ห้อนี้ได้เลยครับ

จุดเด่น

  • มีทั้งวิตามินบีรวม, สารสกัดจากใบแปะก๊วย และโคลีน
  • เน้นบำรุงสมองและระบบประสาทแบบสุด ๆ

ข้อเสีย

  • ราคาต่อหน่วยจะสูงกว่าบางยี่ห้อ
  • เม็ดค่อนข้างใหญ่

5. ยี่ห้อ Voost Performance Vitamin B+

เบื่อกับการทานวิตามินแบบเม็ด ๆ เดิม ๆ กันอยู่หรือเปล่า? ถ้างั้นลองมาทานวิตามินบีรวมเม็ดฟู่กันดีกว่ากับยี่ห้อ Voost จากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นยี่ห้อที่มีวิตามินเม็ดฟู่ขายอยู่หลากหลายประเภท ถ้าต้องการวิตามิน B รวมต้องซื้อรุ่น Performance Vitamin B+ นะครับ โดยถ้าดูจากปริมาณวิตามิน B ของแต่ละชนิดที่ได้จากตารางด้านล่างแล้ว ก็ถือว่ามีปริมาณที่เหมือน ๆ กับยี่ห้อบน ๆ แต่นอกจากวิตามิน B จะยังมีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกเพียบโดยเฉพาะวิตามิน C 500 mg ทำให้แค่ทานเม็ดฟู่ยี่ห้อนี้เม็ดเดียว ก็สามารถได้รับทั้งวิตามิน B รวม และวิตามิน C ไม่ต้องไปหาซื้อแยกเพิ่มเติมให้เสียเงินเลยครับ

จุดเด่น

  • เม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติอร่อย
  • ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
  • แพ็กเกจมีสีสัน
  • นอกจากวิตามิน B รวม ยังมีสารอาหารหลายอย่างเพิ่มเสริมมาด้วย

ข้อเสีย

  • ราคาต่อหน่วยค่อนข้างแรง

6. ยี่ห้อ DHC Vitamin B-Mix

6. ยี่ห้อ DHC Vitamin B-Mix

ราคาโดยประมาณ 84 / 129 บาท ต่อ 40 / 120 เม็ด

ยี่ห้อ DHC จากประเทศญี่ปุ่น น่าจะเป็นยี่ห้ออาหารเสริมวิตามินและเกลือแร่ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในบ้านเรา เพราะด้วยราคาที่ย่อมเยาและหาซื้อได้ง่าย ๆ ซึ่ง DHC ก็มีวางขายอยู่เช่นกัน โดยจะมีแพ็กเกจเป็นซองพลาสติกสีขาวม่วงที่มาพร้อมซิปล็อคจึงช่วยให้พกพาและจัดเก็บได้สะดวก ส่วนตัววิตามินบีก็จะมาในรูปแบบเม็ดสีเหลืองขนาดเล็กจึงช่วยให้กลืนได้ง่าย อีกทั้งยังมีวิตามินบีรวมกันถึง 9 ชนิดด้วย ส่วนปริมาณของแต่ละชนิดก็กำลังพอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป ทำให้ร่างกายสามารถพอดูดซึมไปใช้ได้ทันอยู่ ถ้าใครกำลังมองหาวิตามินบีรวมยี่ห้อที่มีคุณภาพและมีความคุ้มค่า DHC Vitamin B-Mix ตัวนี้ ถือว่าตอบโจทย์เลยครับ

จุดเด่น

  • แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่คนไทยนิยม
  • ราคาต่อหน่วยไม่แพง
  • วิตามินบีค่อนข้างเข้มข้นเมื่อเทียบกับราคา
  • ยอดขายสูง

ข้อเสีย

  • มีแต่วิตามินบีรวมเท่านั้น ไม่มีสารอาหารเพิ่มเติม


7. ยี่ห้อ 21st Century B-50 Complex

21st Century เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพได้อย่างแน่นอน โดยทางแบรนด์เขาจะมีวิตามินบีรวมวางขายกันอยู่สองแบบคือ B-50 และ B-100 โดยผมอยากแนะนำให้ซื้อตัว B-50 มาทาน เพราะมีปริมาณของวิตามิน B แต่ละชนิดที่กำลังพอดี ๆ ไม่มากจนเกินไป ทำให้ร่างกายยังพอสามารถดูดซึมไปใช้ทันได้อยู่ ถ้าเลือกซื้อแบบ B-100 อาจจะดูดซึมไม่ทันแล้วกลายเป็นฉี่สีเหลือง ๆ เสียเงินไปซะเปล่า ๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับ DHC แล้ว จะมีปริมาณวิตามิน B รวมที่มากกว่าพอสมควร ถ้ากลัวว่าร่างกายจะดูดซึมไม่ทันแน่ ๆ ก็ซื้อ DHC แทนได้ แต่ถ้าคิดว่า DHC นั้นน้อยเกินไป ก็ B-50 ตัวนี้จะดีกว่าครับ แต่ยี่ห้อนี้จะไม่มีวิตามิน B8 เหมือน DHC แต่จะเสริมแคลเซียมเข้ามาทดแทน ก็ลองตัดสินใจดูเอานะครับ

จุดเด่น

  • ราคาสมเหตุสมผลกับความเข้มข้น
  • ความเข้มข้นดี
  • ถ้าอยากได้ความเข้มข้นสูง มีรุ่น 100 ให้เลือก
  • ยอดขายสูง
  • มีเสริมแคลเซียม

ข้อเสีย

  • บางคนอาจจะดูดซึมไม่ทัน แล้วปล่อยกลายเป็นฉี่สีเหลือง

8. ยี่ห้อ Life Extension BioActive Complete B-Complex

Life Extension เป็นยี่ห้ออาหารเสริมที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในสหรัฐอเมริกา เพราะด้วยการใช้วัตถุดิบกับกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ จึงทำให้เป็นยี่ห้อที่มีความพรีเมี่ยมกว่า และมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าด้วย โดยอาหารเสริมวิตามิน B รวมอย่าง BioActive Complete B-Complex ก็มีราคาที่ค่อนข้างแรงตกแคปซูลละประมาณ 6 บาท (พอ ๆ กับ Clover Plus ยี่ห้อด้านบน) ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ จะตกเม็ดแคปซูลละ 2-3 บาทเท่านั้น

แต่ด้วยราคาแพงนี่เอง ก็จัดปริมาณวิตามิน B แต่ละชนิดมาให้แบบจัดหนักจัดเต็มเช่นกัน และยังมีการเสริมแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกกับ PABA หรือกรดพารา-อะมิโนเบนโซอิกที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูสุขภาพดีเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ถ้าคิดว่าทานวิตามิน B รวมยี่ห้ออื่น ๆ ไม่ค่อยเห็นผล งั้นต้องลองตัวนี้เลยครับ

จุดเด่น

  • แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา
  • วิตามินบีรวมเข้มข้นมาก
  • มีแคลเซียมและ PABA เสริม

ข้อเสีย

  • เม็ดค่อนข้างใหญ่
  • ราคาต่อหน่วยค่อนข้างแรงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ

9. ยี่ห้อ Swiss Energy Magnesium +B Complex

Swiss Energy Magnesium +B Complex เป็นวิตามินเม็ดฟู่ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายที่ดีมาก ๆ อันดับต้น ๆ ในบ้านเรา แต่ถ้าดูจากชนิดและปริมาณของวิตามิน B แล้ว จะเห็นว่าน้อยกว่ายี่ห้ออื่นเอามาก ๆๆๆ เนื่องมาจากจะเน้นไปที่สารอาหารอย่างแมกนีเซียม ส่วนวิตามิน B รวม (4 ชนิด) จะเป็นตัวช่วยเสริมให้แมกนีเซียมออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อสารอาหารทั้งสองทำงานรวมกันแล้ว จะช่วยให้ร่างกายลดความเครียด, ความเหนื่อยล้า, ความวิตกกังวล, ความหงุดหงิด และความเฉื่อยชาได้ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายนอนหลับได้ดีขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ราคาแรงมาก ๆ (ตกเม็ดละประมาณ 18-19 บาท) ถ้ามีเงินไม่มากพอ ลองดูยี่ห้อ Voost ตัวด้านบนก็ได้ มีทั้งวิตามิน B รวมและแมกนีเซียมเหมือนกันด้วย เพียงแค่แมกนีเซียมจะมีปริมาณน้อยกว่าเท่านั้นเองครับ

จุดเด่น

  • เม็ดฟู่ละลายน้ำ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
  • มีเสริมแมกนีเซียม
  • มีหลายรีวิวบอก ทานแล้วหลับสบายดี
  • ยอดขายสูง

ข้อเสีย

  • วิตามินบีรวมมีไม่ครบทุกชนิด
  • ความเข้มข้นค่อนข้างน้อย
  • ราคาค่อนข้างแรงมาก

10. ยี่ห้อ Berocca Performance

10. ยี่ห้อ Berocca Performance

ราคาโดยประมาณ 180 บาท ต่อ 15 เม็ดฟู่

เจอแต่วิตามินบีรวมยี่ห้อของต่างชาติไปกันเยอะแล้ว ลองมาดูยี่ห้อของคนไทยกันบ้างกับ Berocca Performance ที่ถึงจะบอกว่าเป็นของคนไทยแต่ก็แอบมีราคาที่ค่อนข้างแพง โดยจะตกเม็ดฟู่ละประมาณ 12 บาท แต่ด้วยราคาที่แพงแบบนี้ ก็จัดเต็มไปด้วยวิตามินบีหลายชนิดและปริมาณที่ให้มาก็ถือว่าค่อนข้างสูงเป็นอันดับต้น ๆ อีกทั้งยังมีสารอาหารเพิ่มเติมอย่างวิตามิน C, แคลเซียม, แมกนีเซียม และสังกะสีอีกด้วย ดูรวม ๆ แล้วมีสารอาหารที่ค่อนข้างจัดเต็มกว่ายี่ห้ออื่น ๆ สมกับที่ราคาแพงกว่าชาวบ้านเขาเลยครับ แต่แพ็กเกจดันแอบดูธรรมดามาก ๆ ซะงั้น

จุดเด่น

  • เม็ดฟู่ละลายน้ำ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
  • มีความเข้มข้นค่อนข้างสูง
  • มีวิตามิน C, แคลเซียม, แมกนีเซียม และสังกะสีเสริม

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างแรง
  • หาซื้อออนไลน์ยาก

วิตามินบีรวม ช่วยอะไร ?

วิตามินบีรวม ช่วยอะไร ?

ก็ได้เห็นรีวิวสินค้า Vitamin B Complex ยี่ห้อไหนดีกันไปแล้ว ก็เผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่า วิตามินบีรวม ช่วยอะไร ? แต่ละชนิดให้ประโยชน์แก่ร่างกายอย่างไรบ้าง ก็มาทำความรู้ความเข้าใจตามด้านล่างเลยครับ

  • B1 (Thiamine) : ร่างกายต้องการวิตามิน B1 เพื่อช่วยในการเปลี่ยนอาหารที่คนเราทานเข้าไปให้กลายเป็นพลังงาน โดยการสร้าง Adenosine Triphosphate (ATP) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่จะช่วยลำเลียงพลังงานไปให้แก่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายครับ
  • B2 (Riboflavin) : จะช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดงเพื่อช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปสู่ทุกส่วนของร่างกาย และกระตุ้นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานให้แก่ร่างกายให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
  • B3 (Niacin) : เป็นอีกตัวที่มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนอาหารให้กลายเป็นพลังงานแก่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของโคเอนไซม์สองชนิด NAD และ NADP ซึ่งช่วยในกระบวนการเผาผลาญของเซลล์ให้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการสร้างและซ่อมแซม DNA และยังทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะทำร้ายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย
  • B5 (Pantothenic Acid) : ก็ยังคงช่วยเรื่องแปลงอาหารให้กลายเป็นพลังงานเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยการบำรุงผิวหนัง, เส้นผม และดวงตาให้มีสุขภาพดี และยังเสริมให้การทำงานของระบบการย่อยอาหาร, ระบบประสาท และตับทำหน้าที่ได้ดีขึ้นด้วย
  • B6 (Pyridoxine) : นอกจากเรื่องช่วยเปลี่ยนอาหารให้กลายเป็นพลังงานแล้ว ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยังช่วยพัฒนาสมองของเด็กในระหว่างตั้งครรภ์และวัยทารก อีกทั้งยังเป็นตัวสร้างสารสื่อประสาทอย่าง Serotonin และ Dopamine ที่จะช่วยทำให้คนเรานั้นมีความสุข และไม่เกิดความเครียด สุดท้ายก็ช่วยสร้าง Hemoglobin ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนครับ
  • B7 (Biotin) : ยังคงมีหน้าที่ในการช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหาร นอกจากนี้จะช่วยส่งเสริมให้ผิวหนัง, เส้นผม, เล็บมือ, ดวงตา, ตับ และระบบประสาทให้มีสุขภาพดี อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการช่วยการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์ให้ปลอดภัย และมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ครับ
  • B8 (Inositol) : ถึงแม้ว่าจะมีการเรียก Inositol ว่าวิตามิน B8 แต่จริง ๆ แล้ว Inositol ไม่ใช่วิตามินนะครับ จะเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย โดยจะเป็นส่วนประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ และกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินที่ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของสารเคมีในสมองโดยเฉพาะพวกสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์อย่าง Serotonin และ Dopamine เพื่อพยายามให้ร่างกายมีความสุขครับ
  • B9 (Folic acid) : จะมีส่วนสำคัญในการช่วยเจริญเติบโตของเซลล์, การแบ่งเซลล์ที่เหมาะสม และการสร้าง DNA ในร่างกาย รวมถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวด้วย และจะมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ซึ่งหากมีการขาดแคลนวิตามิน B9 จะเพิ่มโอกาสในการแท้งลูกมากขึ้นครับ
  • B12 (Cobalamin) : มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยให้ระบบประสาทและสมองทำงานได้อย่างปกติ จนถึงมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการสร้างกับวางระเบียบของ DNA ด้วยครับ

จากที่ดูรวม ๆ ประโยชน์ของวิตามินบีแต่ละชนิดแล้ว จะเห็นว่า ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของการช่วยแปลงอาหารให้กลายเป็นพลังงานแก่ร่างกาย จึงทำให้หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีเรี่ยวมีแรง หลังจากที่ได้ทานวิตามิน B รวมเลยครับ อีกทั้งยังช่วยบำรุงกับดูแลในเรื่องของสมองและระบบประสาท รวมถึงเรื่องความงามอย่างผิวพรรณ, เล็บมือ, และเส้นผม ให้ดูมีสุขภาพดีอีกด้วย เห็น ๆ กันแบบนี้แล้ว ต้องรีบไปหาวิตามิน B รวมมาทานกันแล้วครับ


วิตามินบีรวม กินตอนไหน ?

วิตามินบีรวม กินตอนไหน ?

ก็ด้วยคุณสมบัติของ Vitamin B Complex ที่มีสรรพคุณในการเสริมพลังงาน ช่วยกระตุ้นร่างกายให้กระปี้กระเปร่า ทำให้ถ้าถามว่า วิตามินบีรวม กินตอนไหน ? ก็เวลาที่ดีที่สุดจะเป็นช่วงตอนเช้า ๆ หรือหลังตื่นนอน จะได้ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมเริ่มต้นวันใหม่นั่นเอง และด้วยการที่วิตามินบีรวมเป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำ เวลาทานแล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำพอประมาณตามไปด้วย ส่วนช่วงเวลาที่ไม่ควรทานเลยก็คือ ช่วงบ่าย ๆ หรือตอนเย็น ๆ ดึก ๆ เพราะด้วยฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท กระตุ้นร่างกาย อาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง แล้วกลายเป็นไม่ยอมนอนครับ


ปริมาณวิตามิน B ที่ร่างกายต้องการ

ปริมาณวิตามิน B ที่ร่างกายต้องการ

จากข้อมูลของสถาบันสหรัฐอเมริกา NIH ( National Institute of Health) ได้บอกไว้ว่า

ชนิดผู้ชายควรทาน ต่อ 1 วันผู้หญิงควรทาน ต่อ 1 วัน
B11.2 mg1.1 mg
B21.3 mg1.1 mg
B316 mg NE14 mg NE
B55 mg5 mg
B61.3 mg1.3 mg
B7 หรือ Biotin30 mcg30 mcg
B9 หรือ Folate400 mcg DFE400 mcg DFE
B122.4 mcg2.4 mcg

แต่หากเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้หญิงที่มีการตั้งครรถ์ อาจจะต้องการปริมาณวิตามิน B ที่มากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาว่าต้องการที่ปริมาณเท่าไร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ต้องกังวลกันมากนัก หากทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนวิตามิน B ครับ


ก็จบไปแล้วกับการรีวิว วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ยี่ห้อไหนดี ทั้งแบบเม็ด/แคปซูล 5 ยี่ห้อ และแบบวิตามินบีรวมเม็ดฟู่ 5 ยี่ห้อ สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ตัวไหนไปทานเสริมสารอาหารกันบ้างไหมครับ? ถ้าเลือกซื้อแบบเม็ดก็จะดีตรงทานง่าย ไม่ยุ่งยาก จับใส่เข้าปากแล้วดื่มน้ำตามก็จบ แต่ก็จะไม่อร่อยและให้ความรู้สึกเหมือนกับการทานยามาก ๆ ส่วนถ้าแบบเม็ดฟู่ก็ดูมีอะไรดี ตอนละลายในน้ำก็ส่งเสียงฟู่ ๆ ซู่ ๆ ด้วย พอดื่มแล้วก็อร่อย มีรสชาติ และยังให้ประโยชน์แก่ร่างกายด้วย ยังไงทาง PlusAround ก็ขอให้ได้วิตามินบีรวมยี่ห้อที่ถูกใจ และตรงต่อความต้องการกันด้วยนะครับผม


ข้อมูลและแหล่งอ้างอิง


1 thought on “วิตามินบีรวม ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ”

Leave a Comment