การวิ่งเป็นการออกกำลังกายยอดฮิต สามารถเผาผลาญพลังงานได้มาก เพราะกล้ามเนื้อบริเวณขามีมากกว่าบริเวณอื่น ๆ จึงทำให้เกิดการเผาผลาญเป็นทวีคูณเลยทีเดียว แต่จะให้ไปวิ่งตามสวนก็อาจจะพบว่า ไม่ค่อยมีเวลาไปสักเท่าไรนัก ดังนั้นลู่วิ่งนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับการออกกำลังกาย ที่ประหยัดเวลา ลดการเดินทาง ลดความเสี่ยงจากการไปรวมกันตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อาจจะเป็นการแพร่เชื้อโควิดได้อีก แล้วเราจะเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้ได้รวบรวมวิธีการเลือกซื้อ พร้อมเปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ตามมาอ่านกันเลยครับ
สารบัญ
วิธีการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า
ลู่วิ่งไฟฟ้าส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ขนาดมาตรฐานที่พบเห็นได้ตามฟิตเนส และอีกแบบคือรุ่นที่ดูเหมือนกระดาน ขนาดเล็ก บางกว่าแบบมาตรฐาน บางรุ่นสามารถพับได้ และมักจะไม่มีที่จับมาให้เพื่อความสะดวกเวลาจัดเก็บ แต่ทว่าก็แลกมาด้วยฟังก์ชั่นที่หดหายไป รวมไปถึงความเร็วสูงสุดในการวิ่ง ที่จะทำได้น้อยกว่ารุ่นไซส์มาตรฐานอีกด้วย ใครที่เน้นวิ่งเร็ว แนะนำว่ามองข้ามรุ่นกระดานดีกว่าครับ เพราะสปีดเค้าทำได้สูงสุดส่วนใหญ่ จะแค่เหมาะสำหรับเดินเร็วเท่านั้น
เลือกรุ่นที่มีความเร็วสูง มอเตอร์พละกำลังดี หรือมอเตอร์ขนาดใหญ่ เนื่องจากพบว่าลู่วิ่งบางรุ่น ถ้าต้องเจองานหนัก เจอคนตัวใหญ่ อาจจะมีอาการสะดุด หรือสายพานฝืด วิ่งแล้วไม่สม่ำเสมอ จะทำให้เราเสียอารมณ์ในการวิ่งได้นะ ที่สำคัญอาจก่อเกิดอุบัติเหตุได้ครับ
ตรวจเช็ค น้ำหนักสูงสุดที่ลู่วิ่งรองรับได้ ตรงจุดนี้แนะนำให้ซื้อเผื่อน้ำหนักตัวเองขึ้นด้วยนะ เพราะอาหารอร่อย ๆ ปาร์ตี้บ่อย ๆ จะทำให้น้ำหนักคุณพุ่งพรวดจนไม่ทันตั้งตัวแน่นอน หลาย ๆ คนที่ชอบบอกว่า เดี๋ยวค่อยไปวิ่ง ผ่านไป 3 เดือนก็ยังไม่ได้วิ่งสักที พอชั่งน้ำหนักอีกทีปรากฏว่าน้ำหนักเราเกินที่เครื่องวิ่งจะรับไหวซะแล้ว
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ลู่วิ่งไฟฟ้า” ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูลู่วิ่งไฟฟ้าแบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, กำลังมอเตอร์, ความเร็วที่รองรับ, ปรับความชัน, น้ำหนักที่รับได้ และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ
1. ยี่ห้อ KINGSMITH R1 PRO
ราคาโดยประมาณ 11,990 บาท
KINGSMITH R1 PRO ลู่วิ่งไฟฟ้าจากเครือ Xiaomi ที่มีจุดเด่นคือเรื่องของขนาด ลู่วิ่ง KINGSMITH R1 PRO นั้นถือว่าเป็นขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านไม่มาก ด้วยขนาดเพียง 2 ตรม. จึงทำให้ใช้พื้นที่ในการวางเครื่องวิ่งน้อย อีกทั้งยังสามารถพับเก็บได้เมื่อใช้เสร็จแล้ว ช่วยเพิ่มการประหยัดพื้นที่้้เข้าไปอีก แต่ว่าถึงขนาดจะเล็กแต่พื้นที่ในการวิ่งกว้างขวางไม่อึดอัด ปลอดภัยสำหรับการวิ่ง และยังมีล้อลาก สำหรับการเคลื่อนย้าย ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่เปลืองแรง นอกจากนี้ตัวลู่เองยังมีช่องให้วางโทรศัพท์และแท็บเล็ตเพื่อเพิ่มความสนุกสนานเวลาออกกำลังกายอีกด้วยครับ
และด้วยฟังก์ชั่นที่มีมาให้พร้อมกันถึง 2 ฟังก์ชั่นในตัว คือโหมดการเดินและการวิ่งในตัว สามารถปรับระดับความเร็วได้ตามที่ต้องการ ด้วยความเร็วตั้งแต่ 0.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง จนถึง 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังรองรับน้ำหนักได้มากถึง 110 กิโลกรัม มาพร้อมระบบลดแรงกระแทก EVA ที่จะช่วยลดแรงกระแทกที่หัวเข่า ช่วยให้เพื่อน ๆ ออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น KS FIT บนสมาร์ทโฟนได้ สะดวกต่อการใช้งานและเก็บสถิติการวิ่งของอีกด้วย เครื่องวิ่ง KINGSMITH R1 PRO ถือว่าเป็นเครื่องวิ่งมีจุดเด่นมากมาย แค่มีติดบ้านเอาไว้ก็สามารถออกกำลังกายได้ทุกเมื่อที่ต้องการ สะดวก ใช้งานง่าย จัดเก็บง่าย เหมาะกับมือใหม่ที่กำลังมองหาลู่วิ่งไปลองใช้กันครับ
มอเตอร์ | 1.5 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 0.5-10 km/h |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 44 x 120 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 110 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
2. ยี่ห้อ Kingsmith K15 Power Treadmill
ราคาโดยประมาณ 14,599 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า Kingsmith K15 Power Treadmill เป็นลู่อีกหนึ่งตัวจากเครือ Xiaomi ที่อัพเกรดตัวเองขึ้นมาอีกระดับ ด้วยวัสดุสายพานแบบ Multilayer Fiber ที่จะช่วยให้การวิ่งของเรานั้นสบายขึ้น สามารถดูดซับแรงจากเท้าสู่พื้นลู่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ป้องกันอาการบาดเจ็บ และยังลดเสียงฝีเท้าขณะวิ่งได้อย่างดี เหมาะกับสายวิ่งที่ชอบดูหนังหรือฟังเพลงขณะวิ่ง เพราะเสียงรบกวนนั้นน้อยมาก นอกจากนี้ตัวลู่ยังมีพื้นที่สำหรับสายพานค่อนข้างกว้าง สะดวกสบายเวลาวิ่ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพขณะวิ่งได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีล้อลากและสามารถพับเก็บได้ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ ครับ
ด้วยขนาดมอเตอร์ที่ 1.25 แรงม้า สามารถส่งกำลังขับเคลื่อนขณะวิ่งได้อย่างไม่มีสะดุด สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 0.8-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังสามารถรองรับน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ทำให้เหมาะกับผู้เริ่มต้นทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังกายถึง 3 โหมดด้วยกัน คือโหมด HIIT (high-intensity interval) สำหรับมือโปร, โหมด Fat Burning (medium-intensity) เหมาะสำหรับการเผาผลาญแคลอรี่ และโหมด Walking (low-intensity) สำหรับผู้เริ่มต้น นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการใช้งานและแทรคกิ้งการวิ่งของเราได้อีกด้วย
มอเตอร์ | 1.25 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 0.8-15 km/h |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 120 x 48 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 110 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
3. ยี่ห้อ FITWHEY BAAM!! HOME TREADMILL
ราคาโดยประมาณ 25,000 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า FITWHEY BAAM!! HOME TREADMILL จากเจ้าแห่งวงการการออกกำลังกายของไทย ถ้าเพื่อน ๆ อยู่ในสายออกกำลังกายอยู่แล้ว การพูดถึง FITWHEY BAAM นั้นแทบไม่มีใครไม่รู้จัก ตัวเครื่องวิ่งออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่บ้านโดยเฉพาะ ทั้งในเรื่องขนาด น้ำหนัก การจัดเก็บของลู่ที่สามารถใช้งานที่บ้านได้อย่างสะดวก ตัวลู่มีขนาดความกว้างของสายพานสำหรับวิ่ง 42 เซนติเมตร น้ำหนักเครื่อง 60 กิโลกรัม สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้ถึง 110 กิโลกรัม และยังสามารถพับเก็บได้อย่างสะดวกด้วยระบบอัตโนมัติ
จุดเด่นของลู่วิ่งคือใช้ motor 2.0 DC ขับเคลื่อน ด้วยพละกำลัง 2.0 แรงม้า ทำให้เครื่องวิ่งมีความเสถียร เพิ่มอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน มีระบบโช๊คคู่ 2 ด้าน รองรับแรงกระแทก ป้องกันอาการบาดเจ็บจากข้อเท้าและข้อเข่าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถลดเสียงรบกวนขณะวิ่งได้อีกด้วย สามารถปรับความเร็วได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังมีระบบปรับความชันอัตโนมัติ ระบบความปลอดภัยขณะวิ่ง ตัดการทำงานเมื่อเกิดอันตรายได้ทันที ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกปลอดภัย หมดความกังวลขณะออกกำลังกายเลยครับ
มอเตอร์ | 3.5 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 1 – 14 km/h |
ปรับความชัน | ✓ |
ขนาดสายพาน | 42 x 125 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 110 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
4. ยี่ห้อ OVICX รุ่นA2S Treadmill
ราคาโดยประมาณ 5,900 บาท
ลู่วิ่ง OVICX รุ่น A2S เป็นลู่วิ่งราคาถูกที่มีขนาดมอเตอร์ถึง 2.0 แรงม้า ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีมาก ๆ ในราคาแค่นี้ เพราะแรงม้าเยอะก็จะสามารถขับเคลื่อนสายพานของเราให้ทำงานได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังมีผลต่อการรับน้ำหนักที่มากขึ้นอีกด้วย ซึ่ง OVICX รุ่น A ตัวนี้สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 1-12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงแม้มอเตอร์จะเป็นแบบ 2.0 แรงม้า แต่เป็นแบบ AC หรือมอเตอร์แบบไฟฟ้ากระแสสลับ ทำให้การส่งไฟนั้นมีข้อจำกัด ตัวลู่วิ่งเองจึงมีขีดจำกัดอยู่ที่ 2 ชั่วโมง หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่วิ่งนาน ๆ ถึง 2 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่องแล้วละก็ จะต้องทำการปิดเครื่องพักผ่อน 10 นาทีทุกการวิ่ง 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งาน
ลู่วิ่งมีขนาดพื้นที่วิ่ง 58 เซนติเมตร ไม่กว้างแล้วก็ไม่แคบจนเกินไป สามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ชอบรุ่นที่มีขนาดกว้างขวางแล้วละก็ ลู่วิ่ง OVICX รุ่น A2S อาจจะยังไม่ตอบโจทย์มากนัก เพราะด้วยความที่ตัวเครื่องทำมาเพื่อการออกกำลังกายที่บ้านโดยเฉพาะ จึงทำให้ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่ สามารถจัดเก็บได้อย่างสะดวกสบาย พับเก็บได้ น้ำหนักไม่เยอะ ถ้าเทียบกับรุ่นอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ LED คอยบอกค่าต่าง ๆ และปุ่มฟังก์ชั่นก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ถ้าหากเพื่อน ๆ กำลังมองหาเครื่องวิ่งราคาย่อมเยาไปไว้ที่บ้านแล้วละก็ OVICX รุ่น A2S ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ
มอเตอร์ | 2.0 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 1-12 km/h |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 41 x 120 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 100 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
5. ยี่ห้อ OCIVX รุ่น Q2S plus 3.0
ราคาโดยประมาณ 11,500 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า OCIVX รุ่น Q2S plus 3.0 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมาก ด้วยดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้งานของตัวเครื่อง แล้วยังมีหน้าจอแสดงผลแบบ LED ที่สวยงามไม่แพ้กัน มีความมินิมอล ระบบสัมผัส ตัวเลขและปุ่มต่าง ๆ ที่หน้าจอมองเห็นได้อย่างคมชัด ใช้งานง่าย และด้วยความที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายง่าย พับเก็บได้ ทำให้หมดปัญหาเรื่องพื้นที่ในการใช้งาน สามารถกางออกมาใช้งานได้อย่างสะดวก อีกทั้งเครื่องวิ่งยังเป็นแบบสำเร็จรูปไม่ต้องประกอบให้เสียเวลาเลยครับ
ด้วยมอเตอร์ขนาด 3.0 แรงม้า ทำให้สามารถปรับความเร็วได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนาดสายพานหรือพื้นที่วิ่งมีขนาดความกว้าง 43 เซนติเมตร ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของระดับนี้ สามารถวิ่งได้อย่างสบายและปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจจะไม่สบายสำหรับคนที่ชอบพื้นที่วิ่งกว้าง ๆ นอกจากนี้เครื่อง OCIVX รุ่น Q2S plus 3.0 สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และยังมีเทคโนโลยี Silkworm ที่เป็นยางรองดีไซน์แบบตัวหนอนใต้ลู่วิ่ง สามารถช่วยลดแรงกระแทกและเสียงรบกวนขณะวิ่ง เครื่อง OCIVX รุ่น Q2S plus จึงเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ชอบรุ่นที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้
มอเตอร์ | 3.0 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 1-14 Km/H |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 43 x 125 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 100K kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
6. ยี่ห้อ Amazfit airrun
ราคาโดยประมาณ 15,999 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า Amazfit airrun เป็นอีกรุ่นที่มีจุดเด่นการดีไซน์ที่สวยงาม วัสดุโลหะแข็งแรงทนทาน ไร้รอยต่อ เรียบง่ายแบบมินิมอล สามารถพับเก็บได้ หน้าจอ LED ที่บอกค่าสถานะต่าง ๆ ก็สวยงาม มีความคมชัด สังเกตง่ายแม้กำลังวิ่งอยู่ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับลำโพง JBL ขนาด 20 วัตต์ ถึง 2 ตัว มาคู่กาย Amazfit airrun กันอีกด้วย ซึ่งเจ้า JBL ที่ติดตั้งไว้ ก็จะทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบวิ่งไปฟังเพลงไปมาก ๆ ครับ
นอกจากนี้ตัวลู่ยังมีการรับแรงกระแทกขณะวิ่งได้เป็นอย่างดี มีการติดโช๊คอัพที่ตัวลู่วิ่งถึง 8 ตัว เพื่อกระจายแรงกระแทกของข้อเท้าและเข่า และยังช่วยลดเสียงรบกวนขณะวิ่งได้อีกด้วย มอเตอร์ขนาด 1.25 แรงม้า สามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนาดพื้นที่สายพานสำหรับวิ่งมีความกว้างกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยความกว้างถึง 50 เซนติเมตร ทำให้รู้สึกสบายขณะวิ่ง อีกทั้งยังสามารถต่อกับแอปพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อแทรคกิ้งการออกกำลังกายของเราได้อีกด้วย และอีกอย่างที่ชอบมาก ๆ เลยคือตัวเครื่องมีการแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงเมื่อถึงกำหนด ทำให้เราไม่ต้องห่วงเรื่องการใช้งานเลยครับ นั่นจึงทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้า Amazfit airrun เหมาะกับมือใหม่ที่อยากหาเครื่องวิ่งวิ่งสักตัวมาไว้ออกกำลังกายที่บ้าน
มอเตอร์ | 1.25 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 1-15 km/h |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 50 x 130 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 100 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
7. ยี่ห้อ U'REVo Walkingpad Treadmill U1 Walking pad
ราคาโดยประมาณ 6,590 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า U'REVo Walkingpad Treadmill U1 Walking pad เป็นแบบ pad หรือ แผ่นกระดานนั่นเอง ถือว่าเป็นเครื่องวิ่งที่น่าสนใจอีกตัวนึง ด้วยรูปทรงที่แปลกตาไปบ้าง เพราะตัวลู่วิ่งนั้นจะไม่มีขอบกั้น ที่จับและปุ่มกดต่าง ๆ ให้ใช้งาน ตัวเครื่องวิ่งเป็นเหมือนแผ่นกระดานวิ่งได้ ที่มีสายพานคอยขับเคลื่อน และด้วยความที่เป็นกระดานแผ่นเดียว จึงทำให้เครื่องวิ่งนั้นมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะสำหรับคนมีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก มีพื้นที่สายพานสำหรับการวิ่ง 48 เซนติเมตร เพียงพอต่อการใช้งาน และด้วยขนาดที่บางเพียง 6.5 เซนติเมตร ทำให้สามารถจัดเก็บได้ง่ายแม้กระทั่งใต้เตียงหรือโซฟา ส่วนตัวหน้าจอ LED แสดงผลนั้นจะอยู่ที่ฐานของเครื่องวิ่ง จะแสดงความเร็วและระยะทางขณะใช้งาน
ด้วยความที่ลู่วิ่งมีขนาดเล็ก จึงมีการใช้กำลังไฟน้อย ทำให้ความเร็วที่ทำได้นั้นไม่สูงมาก สามารถทำความเร็วได้แค่ 0.8 – 6.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเหมาะกับผู้เริ่มต้นมากกว่า อาจจะไม่เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่วิ่งเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะความเร็วแค่ 0.8 – 6.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั้นอย่างมากสุดก็ทำได้แค่การเดินไปจนถึงการวิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ เท่านั้นเอง และตัวเครื่องวิ่งเองยังรับน้ำหนักไม่ได้มากเท่าไร จะรับน้ำหนักได้ประมาณ 90 กิโลกรัม อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้มีน้ำหนักตัวเยอะ นั่นทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้า U'REVo Walkingpad Treadmill U1 Walking pad นั้น เหมาะกับผู้ที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกาย แต่ยังไม่หนักมาก แบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปครับ
มอเตอร์ | – |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 0.8 – 6.0 km/h |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 48 x 125 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 90 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✘ |
8. ยี่ห้อ Fairtex Super Run
ราคาโดยประมาณ 17,900 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า Fairtex Super Run เป็นเครื่องวิ่งขนาดใหญ่ที่ให้ทั้งฟังก์ชั่นและปุ่มต่าง ๆ ในการใช้งานมาอย่างครบครัน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องวิ่งที่จัดเต็มอีกตัวนึง ด้วยความที่เป็นลู่วิ่งขนาดใหญ่จึงมีขนาดมอเตอร์ถึง 3.0 แรงม้า ทำให้วิ่งได้อย่างเต็มสปีด สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน ปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1.0 – 22.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังปรับความชันได้ถึง 20% เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งด้านความเร็วและความชัน นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังกายต่าง ๆ ถึง 24 โหมด ใช้งานง่าย ให้เพื่อน ๆ ได้สนุกไปกับการวิ่ง เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่ออกกำลังกายมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ตัวเครื่องวิ่งยังมีหน้าจอที่ใหญ่ บอกสเกลต่าง ๆ ครบครัน มีการออกแบบให้ปุ่มปรับค่าต่างๆ เช่น ปุ่มเริ่ม หยุด ความชัน ความเร็ว ให้มีขนาดใหญ่ สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน และยังมีปุ่มลัดไว้ใช้สำหรับการเพิ่มความเร็วและความชัน ไม่ต้องมานั่งไล่กดทีละระดับ เพียงแค่กดปุ่มก็จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถออกกำลังกายได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งสายพานขนาดใหญ่ที่มีระบบรองรับแรงกระแทก มีขนาดกว้างถึง 53 เซนติเมตร และยังเป็นลายไดมอนด์ที่ช่วยเพิ่มแรงเสียดทานขณะวิ่ง ป้องกันการลื่นของผู้วิ่งและการสึกหรอของสายพาน ถ้าหากเพื่อน ๆ กำลังมองหาเครื่องวิ่งที่ฟังก์ชั่นครบครัน ใช้งานได้หลากหลายแล้วละก็ Fairtex Super Run เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ
มอเตอร์ | 3.0 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 1-22 km/h |
ปรับความชัน | ✓ |
ขนาดสายพาน | 53 x 148 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 135 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
9. ยี่ห้อ Horizon Treadmill TR5.0
ราคาโดยประมาณ 18,900 บาท
ลู่วิ่งไฟฟ้า Horizon Treadmill TR5.0 จะมาในสี all black จัดว่าเป็นเครื่องที่สวยมาก ๆ อีกตัวนึง ด้วยสีและดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวน่าใช้งาน มาพร้อมกับโปรแกรมการออกกำลังกายถึง 45 โปรแกรม สามารถวัดค่าต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ทั้งระยะทาง ความชัน แคลอรี่ เวลา ความเร็ว อัตราการเต้นของหัวใจ และด้วยโปรแกรมที่หลากหลายนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถออกกำลังกายได้อย่างสนุกสนาน ทำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีเบื่อ และด้วยหน้าจอปุ่มกดต่าง ๆ ที่ใช้งานง่ายและครบครัน ทำให้การออกกำลังกายของเพื่อน ๆ เป็นไปอย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด
ตัวเครื่องวิ่งมีขนาดมอเตอร์ที่ 2.0 แรงม้า สามารถขับเคลื่อนเครื่องวิ่งให้ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่เกิดอันตรายต่อลู่และผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีลำโพงบลูทูธในตัว ให้เพื่อน ๆ ได้เพลิดเพลินกับการฟังเพลงหรือดูหนังขณะวิ่ง โดยที่ไม่ต้องใช้หูฟัง และยังสามารถเชื่อมต่อบลูทูธไปยังเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อบอกว่าตอนนี้อัตราการเต้นของหัวใจของเราขณะนี้อยู่ในระดับไหน ทำให้สามารถจัดระดับการออกกำลังกายได้ Horizon Treadmill TR5.0 ถือว่าเป็นลู่วิ่งอีกตัวที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยฟังก์ชั่นครบครัน ดีไซน์สวย เลยเป็นที่ถูกใจของหลาย ๆ คนครับ
มอเตอร์ | 2.0 hp |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 0.8−16.0 km/h |
ปรับความชัน | ✓ |
ขนาดสายพาน | 40.6 x 127 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 113 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✓ |
10. ยี่ห้อ FITNESS Real Run (Zwift Version) Non Motor
ราคาโดยประมาณ 31,990 บาท
FITNEES Real Run (Zwift Version) Non Motor ลู่วิ่งจากแบรนด์ Real run ที่แตกไลน์อีกแบบมาให้ลองวิ่งกัน เครื่องวิ่งตัวนี้หน้าตาอาจจะแปลกตาไปบ้างสำหรับเพื่อน ๆ เพราะเป็นเครื่องวิ่งแบบทรงโค้ง ที่ไม่มีมอเตอร์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ใช้แต่พละกำลังของผู่วิ่ง จึงทำให้เผาผลาญแคลลอรี่ได้มากกว่า เสมือนวิ่งอยู่ในสนามจริง และด้วยสายพานที่เป็นทรงโค้งทำให้เท้าของเราขณะวิ่งนั้น สัมผัสกับสายพานของลู่ได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย พร้อมทั้งยังรองรับแรงกระแทกได้ดีอีกด้วย
มีโหมดฝึกต่าง ๆ มากถึง 7 โหมด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงระดับแอดวานซ์ มีระบบปรับความเร็วอิสระ ตามแรงวิ่ง สามารถปรับระดับความหนืดได้ และระบบเบรกที่จะช่วยป้องกันอันตรายขณะหยุดวิ่ง มีหน้าจอ LED ที่สามารถบอกระยะทาง เวลา ความเร็ว จำนวนก้าวของเราได้ นอกจากนี้ยังมีราวจับรูปแบบ Real Slim ที่ออกแบบมาให้จับง่าย ปลอดภัย ไม่รบกวนการวิ่งของเราอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องวิ่งที่น่าสนใจ ด้วยรูปทรงและระบบการทำงานต่าง ๆ เหมาะสำหรับคนที่เบื่อการวิ่งแบบเดิม ๆ อยากลองอะไรใหม่ ๆ เครื่องวิ่ง FITNEES Real Run (Zwift Version) Non Motor จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ
มอเตอร์ | – |
ความเร็วที่สามารถปรับได้ | 1-20 kg/h ตามกำลังผู้วิ่ง |
ปรับความชัน | ✘ |
ขนาดสายพาน | 42 x 152 cm |
น้ำหนักที่รับได้ | 180 kg |
สามารถพับเก็บได้ | ✘ |
อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี กันแล้วใช่ไหมครับ บางยี่ห้อก็มีจุดเด่นเรื่องความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่อยู่ในตลาดเครื่องออกกำลังกายมานาน ราคาก็จะแรง ๆ หน่อย ๆ ส่วนยี่ห้อใหม่ ๆ ก็จะเน้นขนเอาลูกเล่นล้ำ ๆ อย่างเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ช่วยบันทึกกิจกรรมการออกกำลังได้สะดวก บางรุ่นสามารถลดแรงกระแทกในการวิ่งได้อีกด้วย ใครที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า อาจจะต้องดูคุณสมบัติตรงนี้เพิ่มเติมด้วย ก็ขอให้ได้ ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ถูกใจ จะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันนะครับ
นักเขียนอิสระ ที่มีประสบการณ์ในแวดวง IT Gadget มือถือ มากกว่า 5 ปี มีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้า IoT เป็นอย่างดี เลือกจัดอันดับสินค้าอย่างตั้งใจ ซื้อตามกันไม่มีผิดหวังแน่นอน