+ “แคลเซียม” ยี่ห้อไหนดี 2023 บำรุงกระดูก มีประโยชน์ รีวิว 10 ยี่ห้อ +

+ "แคลเซียม" ยี่ห้อไหนดี 2023 บำรุงกระดูก มีประโยชน์ รีวิว 10 ยี่ห้อ +

ไหน ๆ ใครที่ทานอาหารทั่ว ๆ ไป หรือทานแต่อะไรก็ไม่รู้ที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ แล้วรู้สึกว่าร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่ทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียม เช่น สูบบุหรี่, ดื่มเหล้า, ดื่มน้ำอัดลม หรือออกกำลังกายน้อย นอกจากนี้ เวลาที่คนเราอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะสูญเสียแคลเซียมไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนสูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนสูง เพื่อทำให้ร่างกายไม่ขาดแคลนแคลเซียม มาลองทาน “อาหารเสริมแคลเซียม” กันดีกว่าครับ เป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกมากที่จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมเพิ่มเติม อีกทั้งราคาก็ไม่ได้แพงมากจนเกินไปด้วย ส่วนจะซื้อแคลเซียมยี่ห้อไหนดีนั้น ไปดูรีวิวที่ด้านล่างได้เลยครับ



ตารางเปรียบเทียบรีวิว “แคลเซียม” ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "แคลเซียม" ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่ไม่มีเวลา หรืออยากดูตารางเปรียบเทียบแคลเซียมของแต่ละยี่ห้อ มาวางเทียบกันแบบหมัดต่อหมัดเลย ก็สามารถกดปุ่มด้านล่างเพื่อเข้าไปดูตารางได้เลยครับ



1. ยี่ห้อ PARADIGM BONNEX Calcium Citrate

อีกหนึ่งยี่ห้ออาหารเสริมแคลเซียมที่น่าสนใจ คงต้องยกให้กับ PARADIGM BONNEX ตัวนี้กันเลยครับ เพราะทางแบรนด์ได้ใช้แคลเซียมในรูปแบบของ Calcium Citrate ซึ่งเป็นรูปแบบที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย มีการละลายน้ำได้ดี จึงมีความปลอดภัย ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่ว รวมถึงยังไม่ทำให้ท้องผูกอีกด้วย และถ้าสังเกตที่ความเข้มข้นของแคลเซียม จะเห็นว่า ในแต่ละเม็ดมีปริมาณของ Calcium Citrate 1,000 mg ที่พอทานแล้ว ร่างกายจะได้รับแคลเซียมที่ 210 mg แม้ว่าจะไม่ได้เป็นยี่ห้อที่ให้ปริมาณแคลเซียมสูงที่สุด

แต่ !! ทางแบรนด์เขาก็ได้ใส่สารอาหารเพิ่มเติมมาหลายชนิด ทั้งวิตามิน D3 ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม มีแมกนีเซียมและสังกะสี ในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับปริมาณของแคลเซียม เพื่อรวมพลังช่วยกันเสริมสร้างการทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน รวมถึงบำรุงระบบประสาทด้วย นอกจากนี้ ตัวสินค้ามี อย. จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้มั่นใจถึงคุณภาพของสินค้ากันได้ ส่วนราคาก็ไม่แพงมาก ทานแล้วได้สารอาหารทั้งแคลเซียมและอื่น ๆ เพิ่มเติม รวม ๆ คุ้มค่าคุ้มราคากันเลยครับ

ประเภทเม็ด
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ดCalcium citrate 1000 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน D3 200 IU, แมกนีเซียม 100 mg, สังกะสี 4 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติไทย

2. ยี่ห้อ STRONKA

ราคาโดยประมาณ​ กล่อง 15 เเคปซูล 690 บาท / กล่อง 30 เเคปซูล 990 บาท

โปรซื้อ 2 กล่องใหญ่ (30 แคปซูล) แถมฟรี 1 กล่องเล็ก (15 แคปซูล)  1980 บาท

สำหรับใครที่ใช้ชีวิต ใช้ร่างกายอย่างหนัก หรือเริ่มมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น จนรู้สึกว่า ร่างกายเริ่มมีอาการปวดตามเนื้อตามกระดูก มีอาการเจ็บข้อต่อ หรือมีอาการเจ็บข้อเข่า ปวดบวม เคลื่อนไหวลำบาก อาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายกำลังขาดแคลนสารอาหารอย่าง แคลเซียมและคอลลาเจน UC II อยู่ก็ได้ครับ ซึ่ง STRONKA ก็ถือเป็นอาหารเสริมที่ตอบโจทย์สำหรับกลุ่มคนที่มีอาการปวดเหล่านี้ เพราะเขามีส่วนผสมของ Calcium L-Threonate ที่ถือเป็นชนิดของแคลเซียมที่ร่างกายดูดซึมได้ดี และยังมีความเข้มข้นที่สูงถึง 500 mg จึงช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมแบบเน้น ๆ

และอีกจุดเด่นที่พิเศษ มีความน่าสนใจยิ่งกว่ายี่ห้อไหน ๆ ก็คือ เขาได้มีการผสมคอลลาเจน UC II เพิ่มเสริมมาให้ด้วย โดยคอลลาเจน UC II จะพบได้มากที่กระดูกอ่อน, ข้อต่อข้อเข่า และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ซึ่งหากร่างกายมีปริมาณของ UC II ไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดได้นั่นเอง และที่สำคัญ UCII ยังได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า มีประสิทธิภาพการป้องกันอาการปวดที่ข้อเข่าได้ดีกว่า Glucosamine ถึง 2 เท่า !!

แต่ยัง ยังไม่จบ ทางแบรนด์เขายังได้เสริมสารอาหารตัวเด็ด อย่าง สารสกัดงาดำมาให้อีก 150 mg ซึ่งงาดำก็จะมาช่วยยับยั้งการทำงานของสารสื่ออักเสบ IL-1β (Interleukin-1 Beta) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งต้นตอของอาการเสื่อมโรคข้อเข่า ทำให้การทาน STRONKA จึงถือเป็นการป้องกันได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ ก็ยังมีวิตามิน D3, วิตามิน C และแมกนีเซียมเพิ่มเสริมมาให้อีกด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ทานยี่ห้อนี้เม็ดเดียวครบ จบ บำรุงทั้งร่างกาย, กระดูก และลดอาการปวดข้อต่าง ๆ ได้ดีเลยครับ

ประเภทแคปซูล
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ดCalcium L-Threonate 500 mg
สารอาหารเพิ่มเติมสารสกัดงาดำ 150 mg / แมกนีเซียม อ๊อกไซด์ 50 mg / Collagen UC II 40 mg / วิตามิน C 25 mg / สารสกัดขมิ้นชัน 25 mg / วิตามิน D3 0.5 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวันเริ่มมีอาการปวดเล็กน้อย วันล่ะ 1 เม็ด พร้อมอาหารเช้า / มีอาการปวดบวม เคลื่อนไหวลำบาก วันล่ะ 2 เม็ด พร้อมมื้ออาหารเช้า 1 เย็น 1
สัญชาติไทย

3. ยี่ห้อ Kirkland Signature Calcium Citrate Magnesium and Zinc

Kirkland Signature เป็นอีกยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมค่อนข้างสูงทั้งบ้านเขาและบ้านเรา โดยอาหารเสริมแคลเซียมของยี่ห้อนี้ จากที่ดู ๆ มาจะมีที่น่าสนใจกันอยู่ 2 รุ่น คือ Kirkland Signature Calcium ที่จะเน้นแคลเซียมเท่านั้น และมีความเข้มข้นสูงถึงเม็ดละ 600 mg พร้อมด้วยวิตามิน D3 : 10 mcg ส่วนอีกรุ่นคือ Kirkland Signature Calcium Citrate Magnesium and Zinc ที่ให้แคลเซียมน้อยกว่ารุ่นแรกที่ 250 mg แต่ก็มีสารอาหารเพิ่มเติมที่มากกว่ามาก ๆ (ดูได้จากตารางด้านล่าง) และถึงแม้จะแพงกว่า แต่ก็ไม่ได้แพงแตกต่างกันมากนัก ถ้าเน้นเรื่องความคุ้มค่า ทานเม็ดเดียวได้ทั้งแคลเซียมและประโยชน์หลายอย่าง รุ่นที่สองจะดีกว่า แต่ถ้าอยากได้แคลเซียมเน้น ๆ ก็แนะนำรุ่นแรกครับ

ประเภทเม็ด
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด250 mg
สารอาหารเพิ่มเติมD3 : 10 mcg / B6 : 5 mg / แมกนีเซียม 40 mg / สังกะสี 5 mg / ทองแดง 0.5 mg / แมงกานีส 0.5 mg / โบรอน 0.5 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน2 เม็ด พร้อมมื้ออาหารเช้า 1 เม็ด เย็น 1 เม็ด
สัญชาติสหรัฐอเมริกา


4. ยี่ห้อ 21st Century. Calcium Magnesium Zinc + D3

21st Century เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อขายอาหารเสริมจากสหรัฐที่ได้รับความนิยมเช่นกัน และมีขายกันหลากหลายชนิดมาก ถ้าอยากได้อาหารเสริมแคลเซียมต้องรุ่น Calcium Magnesium Zinc + D3 กระปุกสีฟ้าขาวตัวนี้เลยครับ โดยปริมาณแคลเซียมอาจจะมาแบบแปลก ๆ ไปนิด ตกที่เม็ดละ 333.33 mg ซึ่งน้อยกว่า Mega We Care แต่ก็มากกว่าพวกยี่ห้ออื่น ๆ ที่เหลือ อีกทั้งยังมีวิตามิน D3, แมกนีเซียม และสังกะสีเพิ่มเติมเข้ามาด้วย โดยทางแบรนด์แนะนำมาว่า ให้ทานวันละ 3 เม็ด แต่ผมว่าวันละ 2 เม็ดแบ่งเป็นเช้ากับเย็นก็เพียงพอแล้ว เพราะจะได้แคลเซียมเพิ่มจากอาหารปกติวันละ 666.66 mg ก็ถือว่าเยอะพอสมควรแล้วครับ ส่วนทางด้านราคาก็ไม่แรงมาก ดูรวม ๆ แล้ว เป็นแคลเซียมอีกยี่ห้อที่ใช้ได้เลยครับ

ประเภทเม็ด
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด333.33 mg
สารอาหารเพิ่มเติมD3 : 3.33 mcg / แมกนีเซียม 133.33 mg / สังกะสี 5 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน3 เม็ด แบ่งทานตลอดวันพร้อมมื้ออาหาร แต่ 2 เม็ด เช้าเย็นก็พอแล้วครับ
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

5. ยี่ห้อ Life Extension Bone Restore with Vitamin K2

5. ยี่ห้อ Life Extension Bone Restore with Vitamin K2

ราคาโดยประมาณ 655 บาท ต่อ 120 เม็ด

ถ้ากำลังมองหาอาหารเสริมแคลเซียมยี่ห้อ Premium และคุณภาพจัดเต็ม ขอแนะนำ Life Extension จากสหรัฐตัว Bone Restore with Vitamin K2 เลยครับ ที่ Premium กว่ายี่ห้ออื่น ๆ นั้น เพราะมีแคลเซียมในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและดีที่สุดถึง 3 ชนิดคือ Dicalcium Malate, Calcium Fructoborate และ Calcium Bisglycinate Chelate อีกทั้งยังมีวิตามิน D3 ที่จะมาช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น พร้อมด้วยวิตามิน K2 ที่จะช่วยนำแคลเซียมไปบำรุงเข้าสู่กระดูกและฟันด้วย นอกจากนี้ ยังมีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกหลายชนิด (ดูได้ที่ตารางด้านล่าง) ประโยชน์เยอะขนาดนี้สมกับที่ Premium กว่าใคร แต่ก็ทำให้มีราคาที่แพงกว่าด้วยเช่นกัน ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็จัดเลยครับ

ประเภทแคปซูล
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด175 mg
สารอาหารเพิ่มเติมD3 : 6.25 mcg / K2 : 50 mcg / แมกนีเซียม 75 mg / สังกะสี 0.5 mg / แมงกานีส 0.25 mg / ซิลิคอน 1.25 mg / โบรอน 0.75 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน4 แคปซูล แบ่งทานตลอดวัน แต่ 2-3 แคปซูลต่อวัน ก็เพียงพอแล้วครับ
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

6. ยี่ห้อ Mivolis DM Calcium

เบื่อกับการทานอาหารเสริมแบบเดิม ๆ ที่เป็นเม็ด ๆ เหมือนการทานยาอยู่ใช่ไหมล่ะ? งั้นลองมาทานแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำกันดีกว่ากับยี่ห้อ Mivolis DM จากเยอรมัน ก็เป็นยี่ห้อที่มีวิตามินหรืออาหารเสริมแบบเม็ดฟู่ขายกันหลากหลายชนิดมาก ทั้งวิตามิน C, B รวม, แร่ธาตุรวม หรือแม้แต่เฉพาะแคลเซียมก็มีเช่นกัน แต่แพ็กเกจแอบจะดูคล้าย ๆ กันไปซะหน่อย ถ้าอยากได้อาหารเสริมแคลเซียมต้องซื้อฝาสีขาวนะครับ โดยที่ 1 เม็ดฟู่จะให้แคลเซียม 400 mg อาจจะไม่ใช่ยี่ห้อที่ให้ปริมาณมากที่สุด แต่ก็ถือว่าให้ปริมาณสูงอยู่ รสชาติตอนดื่มก็แบบน้ำส้มหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ อร่อยใช้ได้ และถึงแม้จะไม่มีสารอาหารเพิ่มเติม แต่ด้วยราคาที่ย่อมเยา ก็ลองซื้อไปทานกันสิครับ

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด400 mg
สารอาหารเพิ่มเติม
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด ละลายในน้ำ 200 ml
สัญชาติเยอรมัน


7. ยี่ห้อ KAL-CEE

KAL-CEE เป็นแคลเซียมเม็ดฟู่ละลายน้ำอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจของคนไทยเรานี้เอง โดยถ้าดูจากราคาแล้ว อาจจะแพงกว่า Mivolis ตัวด้านบน แต่ก็ให้แคลเซียมที่สูงกว่าถึง 625 mg และยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกเพียบ อย่างวิตามิน C ที่ให้สูงมากถึง 1,000 mg, วิตามิน D : 7.5 mcg และวิตามิน B6 : 15 mg มีสารอาหารที่หลากหลายขนาดนี้และยังปริมาณสูง เอาซะแบบว่าแคลเซียมบางยี่ห้อสู้ไม่ได้เลยครับ ไม่พอยังมีรสชาติให้เลือกซื้อกัน 2 รสด้วยคือ รสส้มแบบเดิม ๆ ทั่ว ๆ ไป กับรสองุ่นที่ดูแปลกใหม่ ไม่เหมือนใครดี ชอบรสไหนก็เลือกซื้อรสนั้นกันได้ครับ

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด625 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C : 1,000 mg / วิตามิน D : 7.5 mcg / วิตามิน B6 : 15 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด ละลายในน้ำ 200 ml
สัญชาติไทย

8. ยี่ห้อ Choco Protien Plus

8. ยี่ห้อ Choco Protien Plus

ราคาโดยประมาณ 390 บาท ต่อ 10 ซอง

ลืมภาพอาหารเสริมแคลเซียมแบบเดิม ๆ ที่เป็นเม็ด ๆ หรือแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำกันได้เลย เมื่อมาเจอกับยี่ห้อ Choco Protien Plus ที่เป็นแคลเซียมแบบผงละลายน้ำ อาจจะดูธรรมดา ๆ ก็ละลายน้ำเหมือนเม็ดฟู่ แต่ที่พิเศษกว่ายี่ห้อไหน ๆ ก็คือ มีรสโกโก้นั้นเอง และยังให้แคลเซียมถึง 2 ชนิดคือ Calcium L-threonate 1,000 mg และ Calcium Amino Acid Chelate 400 mg รวมเป็น 1,400 mg! ถือว่ามีความเข้มข้นสูงมาก พร้อมทั้งมีสารอาหารอย่าง วิตามิน C, วิตามิน D3, และ Fish Collagen Peptide ที่จะมาช่วยบำรุงกระดูกอ่อนและผิวพรรณกันด้วย นอกจากจะได้ดื่มโกโก้ดี ๆ สักแก้วแล้ว ก็ยังช่วยบำรุงร่างกายพวกกระดูกและฟันอย่างจัดหนักจัดเต็ม ใครอยากทานอาหารเสริมแคลเซียมแบบใหม่ ต้องลองครับ (แต่ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ จะแพงกว่ามาก ๆ นะครับ)

ประเภทผงละลายน้ำ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 ซอง1,400 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C : 30 mg / วิตามิน D3 : 2 mcg / Fish Collagen Peptide 3,500 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 ซอง ละลายในน้ำ
สัญชาติN/A

9. ยี่ห้อ Demosana Calcium

ถ้ากำลังมองหาแคลเซียมเม็ดฟู่ที่มีคุณภาพดี พร้อมราคาย่อมเยาอยู่ละก็ ลอง ๆ ดูยี่ห้อ Demosana จากเยอรมันดูไหมล่ะครับ? โดยแต่ละเม็ดฟู่จะตกที่ประมาณเม็ดละ 4 บาท ส่วนเรื่องปริมาณสารอาหาร เนื่องจากราคาที่ย่อมเยาจึงทำให้มีเพียงแค่แคลเซียม 400 mg เท่านั้น ไม่มีสารอาหารเพิ่มเติมอื่น ๆ (เหมือนกับยี่ห้อ Mivolis DM ตัวด้านบน) ก็ถือว่าซื้อเผื่อไว้เวลาอยากจะดื่มน้ำ ก็เอาเม็ดฟู่มาละลายเพื่อให้ได้รสชาติอร่อยและประโยชน์เพิ่มเติมจากแค่น้ำดื่มจืด ๆ ก็ได้ครับ แต่เวลาซื้อระวังนิดหนึ่ง เพราะ Demosana เขามีขายอาหารเสริมเม็ดฟู่กันหลายชนิด ถ้าอยากได้แคลเซียม ต้องซื้อหลอดสีฟ้านะครับ เตือนแล้วน้า

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด400 mg
สารอาหารเพิ่มเติม
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด ละลายในน้ำ 200 ml
สัญชาติเยอรมัน

10. ยี่ห้อ Swiss Energy Calcium Ca

Swiss Energy Calcium Ca เป็นแคลเซียมเม็ดฟู่จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพและราคาที่แรงกว่ายี่ห้อทั่ว ๆ ไปด้วยเช่นกัน โดยจะตกเม็ดละประมาณ 19.5 บาท ในขณะที่แคลเซียมเม็ดฟู่ยี่ห้อทั่ว ๆ ไปจะเม็ดละ 4-6 บาท มีราคาแพงกว่ากัน 4-5 เท่าเลยทีเดียว ถ้าเรื่องเงินคือปัญหา แนะนำให้ซื้อยี่ห้ออื่นดีกว่าครับ ส่วนทางด้านปริมาณและสารอาหารที่ 1 เม็ดฟู่ จะได้แคลเซียมที่สูงถึง 500 mg และวิตามิน D3 : 5 mcg ดูรวม ๆ แล้วก็ไม่ค่อยพิเศษแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ มากสักเท่าไรนัก ถ้าคิดว่าทานยี่ห้ออื่น ๆ แล้วไม่ค่อยได้ผลดี ก็ลองตัวนี้ดูได้ครับ

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ปริมาณแคลเซียมต่อ 1 เม็ด500 mg
สารอาหารเพิ่มเติมD3 : 5 mcg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด ละลายในน้ำ 200 ml
สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์

ประโยชน์ของแคลเซียม

ประโยชน์ของแคลเซียม

ก่อนที่จะไปหาซื้ออาหารเสริมแคลเซียมมาทานกันนั้น อยากให้มาทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของแคลเซียมกันก่อน ว่าช่วยอะไร หรือมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ซึ่งแคลเซียมก็จะมีประโยชน์ดังนี้ครับ

  • แคลเซียมประมาณ 99% ในร่างกายจะพบได้มากที่กระดูกและฟัน จึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • ในวัยเด็กจะช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย หรือช่วยทำให้สูงขึ้น ถ้าเด็ก ๆ ได้รับแคลเซียมที่ไม่เพียงพออาจจะทำให้ตัวเล็กและตัวเตี้ยได้ครับ
  • หากร่างกายได้รับแคลเซียมที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายนำแคลเซียมที่อยู่ในกระดูกและฟันไปใช้ เมื่อความหนาแน่นของมวลกระดูกและฟันลดลง ก็จะส่งผลให้กระดูกและฟันไม่แข็งแรง เกิดการหักหรือบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนด้วย
  • แคลเซียมช่วยในการส่งสัญญาณประสาทจากสมองไปสู่กล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และช่วยในการควบคุมการยืดและหดตัวของกล้ามเนื้อ
  • ช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนบางชนิด เช่น อินซูลิน เป็นต้น
  • ช่วยในการลดน้ำหนักได้ (แต่ไม่ได้มากมายเท่าไรนัก)
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

อาจจะดูเหมือนว่าประโยชน์ของแคลเซียมนั้นมีไม่เยอะ เมื่อเทียบกับพวกวิตามินหรืออาหารเสริมอื่น ๆ แต่อย่าลืมว่า กระดูกนั้นถือว่าเป็นโครงสร้างหลัก ๆ ของร่างกายนะครับ ถ้ากระดูกไม่แข็งแรง ก็จบกันเลยทีเดียว แล้วแบบนี้คนเราควรจะทานแคลเซียมเท่าไรดี? ถ้าตามคำแนะนำของ Institute of Medicine จากสหรัฐอเมริกา ทางเขาได้ระบุไว้ว่า

ถ้ากระดูกในร่างกายไม่แข็งแรง ก็เสี่ยงหลายอย่างเด้อ !
ถ้ากระดูกในร่างกายไม่แข็งแรง ก็เสี่ยงหลายอย่างเด้อ !
  • ผู้ชายที่อายุ 70 ปีและน้อยกว่า ควรได้รับ 1,000 mg ต่อวัน
  • ผู้หญิงที่อายุ 50 ปีและน้อยกว่า ควรได้รับ 1,000 mg ต่อวัน
  • ผู้ชายที่อายุมากกว่า 70 ปี ควรได้รับ 1,200 mg ต่อวัน
  • ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 50 ปี ควรได้รับ 1,200 mg ต่อวัน

แล้วถ้าถามว่า ทานแคลเซียมเพิ่มเติมมากกว่าปกติได้ไหม? ทาง Institute of Medicine แนะนำมาว่า ไม่ควรทานเกินวันละ 2,500 mg สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี ส่วนถ้าเกิน 50 ปีไปแล้ว ไม่ควรเกินวันละ 2,000 mg ครับ อีกทั้งการทานแคลเซียมที่มากเกินอาจจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ แก่ร่างกายได้ เช่น ท้องผูก, ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง, การสะสมของแคลเซียมที่เนื้อเยื่ออ่อน หรือการดูดซึมธาตุเหล็กและสังกะสีของร่างกายทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ


เป็นยังไงกันบ้างครับ? ได้เห็นรีวิวอาหารเสริม “แคลเซียม” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ทั้งแบบเม็ดหรือแคปซูลที่ทานเหมือนการทานยาทั่ว ๆ ไป 5 ยี่ห้อ หรือแบบเม็ดฟู่ที่ต้องนำมาละลายน้ำก่อนแล้วจึงดื่ม และสุดท้ายแบบผงละลายน้ำรสโกโก้ ที่ดูแปลกแหวกแนวไปกว่ายี่ห้ออื่น ๆ สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปทานเพื่อเสริมแคลเซียมกันบ้างครับ? ถ้าไม่อยากคิดมาก ผมแนะนำว่า ก็ซื้อแบบเม็ดปกติ ๆ สักยี่ห้อหนึ่ง และซื้อแบบเม็ดฟู่อีกสักยี่ห้อ เพื่อมาละลายน้ำดื่มเสริมระหว่างวัน หรือระหว่างตอนทำงานก็ได้ เพียงแค่นี้ ร่างกายจะไม่ขาดแคลเซียมกันแน่ ๆ ครับผม

แต่ร่างกายไม่ได้ต้องการแค่แคลเซียมเท่านั้น ยังต้องการวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ อีก ถ้ายังไงสนใจอยากซื้อวิตามินรวมมาทาน ก็ลองดูที่บทความด้านล่างได้นะครับ



เราใช้คุกกี้เพื่อนับผู้เข้าชมและพัฒนาเว็บไซต์ อ่านรายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวและคุกกี้

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    สำหรับวิเคราะห์สถิติของผู้ชมเว็บไซต์ เพื่อช่วยตัดสินใจ การปรับปรุงบทความ - ข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้งาน เช่น. ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ Plus Around จาก Google Search หรือ Social Network - ข้อมูลพฤติกรรม เช่น. ระยะเวลา, เวลา, หน้า landing page และการติดตามกิจกรรมอื่น ๆ - ข้อมูลเนื้อหา เช่น. ผู้ใช้อ่านบทความเครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี - ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เช่น. ผู้ใช้แบ่งปันบทความบนเครือข่ายโซเชียล - ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ Google Analtics สามารถดูในระดับภาพรวม แต่ไม่สามารถเจาะจงเป็นรายบุคคลได้ เช่น. เพศ , อายุ , สถานที่ตั้ง - การทดสอบ A/B test สำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    การโฆษณาตามความสนใจ - แสดงโฆษณาที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งาน โดยอ้างอิงตามกิจกรรมของผู้ใช้ บนเว็บไซต์ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ ผู้ใช้งานสนใจ ในเชิงพาณิชย์ - อนุญาตให้ผู้เผยแพร่โฆษณา นำเสนอโฆษณาต่างๆ แก่ผู้ใช้งาน และยังให้ผู้เผยแพร่โฆษณา สามารถประมูลค่าของโฆษณา เพื่อเสนอราคาที่เหมาะสม ก่อนที่จะนำโฆษณาเสนอแก่ผู้ใช้งาน - การกำหนดความถี่สูงสุดในการมองเห็นโฆษณา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเห็นโฆษณาเดียวกันหลายครั้งเกินไป - รวบรวมข้อมูลบราวเซอร์และอุปกรณ์: ประเภทและรุ่นของอุปกรณ์, ผู้ผลิต, ประเภทระบบปฏิบัติการ และรุ่น (เช่น iOS หรือ Android) ประเภท และรุ่นของเว็บบราวเซอร์ (เช่น Chrome หรือ Safari), user-agent, ชื่อผู้ให้บริการ, เขตเวลา ประเภทการเชื่อมต่อเครือข่าย (เช่น Wi-Fi หรือ เซลลูลาร์), ที่อยู่ IP, ตำแหน่งทั่วไปที่อนุมานจากที่อยู่ IP หรือ บราวเซอร์ หรือ เว็บแคช)

Save