Clinique ตัวไหนดี !! รีวิว 10 ตัว ที่น่าสน น่าจัดจ้า

รูปภาพปกบทความ Clinique ตัวไหนดี !! รีวิว 10 ตัว ที่น่าสน น่าจัดจ้า

หุ ๆๆๆ ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “Clinique” ตัวไหนดี แสดงว่า กำลังอยากจะซื้อผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ของแบรนด์ยี่ห้อนี้ ไปใช้งาน ไปใช้บำรุง ไปใช้อัพผิวกันใช่ไหมล่ะคะ แต่แค่ยังงง ๆ ไม่รู้จะซื้อ ตัวไหนดี เพราะมีให้เลือกซื้อกันเยอะแยะหลากหลายผลิตภัณฑ์เอามาก ๆ ก็บอกเลยว่า คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้วล่ะค่าาา เพราะที่นี่ เราได้คัดและรวบรวมผลิตภัณฑ์ Clinique ตัวที่น่าสนใจ ตัวที่น่าโดนมารีวิวให้ดูกันถึง 10 ตัวเลยทีเดียว และไม่ได้มีแต่สกินแคร์นะ ยังมีเครื่องสำอาง รวมถึงน้ำหอมให้ดูกันด้วย ก็ถ้าได้อ่านรีวิวกันจนจบล่ะก็ เตรียมตัวเสียเงินซื้อกันได้เลยจ้าา !!



มาทำความรู้จักแบรนด์ “Clinique” กันสักนิด

มาทำความรู้จักแบรนด์ "Clinique" กันสักนิด

ก็ถ้าใครที่รู้จักยี่ห้อนี้กันดีอยู่แล้ว ก็ข้ามหัวข้อนี้ไปได้เลยนะคะ แต่ถ้าอยากรู้จักนางสักหน่อยล่ะก็ Clinique มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอเมริกาค่ะ โดยในปี 1967 นิตยสารโว้กได้มีการตีพิมพ์หัวข้อเรื่อง “ผิวพรรณที่ดูสวย ดูสุขภาพดี สามารถสร้างขึ้นได้หรือไม่?” โดยคุณ Carol Phillips และคุณ Norman Orentreich พอคุณ Evelyn Lauder ลูกสะใภ้ของแบรนด์ Estée Lauder ได้เห็นบทความนี้เข้า จึงสนใจในตัวเนื้อหาและได้ทำการเชิญคุณ Carol กับ Norman เพื่อมาร่วมมือกันสร้างแบรนด์ใหม่อย่าง Clinique ขึ้น จากนั้นปี 1968 ก็มีการเปิดตัวขายที่แรกที่ Saks Fifth Avenue ห้างชื่อดังที่นิวยอร์ค จนตอนนี้ก็อย่างที่เห็น ๆ กัน Clinique โด่งดัง จนมีวางขายไปทั่วโลกค่า


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “Clinique” ตัวไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "Clinique" ตัวไหนดี

ก็เผื่อใครที่อยากจะอ่านแบบสั้น ๆ สรุป ๆ รวบรัดมาให้เลยซะมากกว่า ก็สามารถกดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบได้นะคะ ก็จะได้เห็นถึงผลิตภัณฑ์ Clinique ทั้ง 10 ตัว มาวางเรียงเทียบกันให้ดูแบบง่าย ๆ ค่า



1. Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter 

คือถ้าถามถึงคุณ Clinique ตัวฮอต ตัวฮิต ตัวตำนาน ล่ะก็ บอกเลยคุณ Even Better! นำโด่งและสายสกินแคร์ต้องคุ้นชื่อกันอย่างแน่นอน เพราะเค้าอยู่คู่กับ Clinique มายาวนานมากกก ซึ่งชีก็ได้มีการปรับสูตรคูณความปังให้ผลิตภัณฑ์ไลน์นี้พุ่งสูงขึ้นไปอีกเท่าตัวค่ะ โดยเฉพาะ Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter ที่เนื้อเซรั่มมีความเข้มข้นมากก เหมือนจะเหนียวแต่ก็ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วซึมลึกลงสู่ผิวง่าย เน้นแก้ปัญหาเรื่องความหมองคล้ำ รอยสิว จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอต่าง ๆ ก็ใครที่อยากใสเนียนกว่านี้ ไปลองค่ะแม่ ให้แค่ 7 วันพอ รอยดำต่าง ๆ ก็เริ่มจางลงแล้ว มันเริ่ดดด 

มาพูดถึงเรื่องความปังของนางกันหน่อย นางได้ยกเอาเทคโนโลยี CL-302 Equalizer Technology ที่จะเข้ามารับมือจุดด่างดำได้แบบจุก ๆ โดยการทำงานของเค้าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ฝั่งลดรอยสิว ลดจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอด้วย CL-302 Complex และยังมาพร้อมกับ UP302 ใช้กระตุ้นการผลัดผิวชั้นนอก ทำให้ผิวกระจ่างใสได้รวดเร็วขึ้น ส่วนกลุ่มที่ 2 จะเป็นกลุ่มดูแลผิวให้ไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นอีก ใช้ Interrupter Complex เข้ามาช่วยดูแลผิวให้สุขภาพดี เป็นผิวแข็งแรงยั่งยืน มีสารสกัดจากพืชพรรณต่าง ๆ เน้นเรื่องต้านอนุมูสอิสระ ลดสาเหตุที่ทำให้ผิวถูกทำร้าย พร้อมมอบความชุ่มชื้นให้ผิว และที่สำคัญชีสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่จำเป็นต้องแค่เฉพาะคนหน้ามันเป็นสิวง่ายอย่างเดียวค่าา

จุดเด่น แก้ปัญหาความหมองคล้ำ รอยสิว จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ลดโอกาสผิวถูกทำร้าย
ประเภท เซรั่ม
สารสกัด เทคโนโลยี CL-302 Equalizer Technology, CL-302, UP302 และ Interrupter Complex
ลักษณะเซรั่มเนื้อเข้มข้น ซึมไว
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิวที่มีปัญหาจุดด่างดำ ผิวไม่สม่ำเสมอ

2. Clinique Dramatically Different Moisturizing Lotion+ 

ยังมีความเข้าใจผิด ๆ ในเรื่องหน้ามันไม่จำเป็นต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์อยู่ ซึ่งมันไม่ได้นะเธอวว มอยเจอร์ไรเซอร์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการล็อกความชุ่มชื้น ล็อกสารอาหารไม่ให้หนีหายไปจากผิว แถมยังเป็นตัวบำรุงผิวชั้นนอกด้วย ซึ่งคุณ Clinique ชีก็เหมือนจะรู้แหละ นางเลยทำ Moisturizing ออกมาให้เลือก มีเนื้อครีมที่แตกต่างเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวและความชอบของแต่ละคนค่ะ คุณคนนี้ก็คือ Clinique Dramatically Different Moisturizing เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น ตัวที่นิยมมากกกก โดยจะมีอยู่ 2 แบบ คือเนื้อ Gel และเนื้อ Lotion + ค่ะ ซึ่งเราจะมาแนะนำตัวขายดี ที่ส่วนตัวชอบมากกกอย่างคุณ Clinique Dramatically Different Moisturizing Lotion + กันก่อน 

สำหรับตัว Lotion + ตามชื่อเลยว่า เนื้อคุณเค้าจะเป็นเนื้อโลชั่นกึ่งอีโมชั่น ไม่ได้แห้งไวซึมหายไปกับผิว แต่ก็ไม่ได้หนักจนรู้สึกถึงความเยิ้มเป็นสังขยากองกันอยู่บนผิวหน้า เนื้อครีมมีความนุ่มละเอียดละมุนมาก รู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ พอผิวมีความอิ่มน้ำก็จะนำไปสู่การมีผิวแข็งแรง พวกปัญหาสิวผด ความแห้งกร้านขาดน้ำต่าง ๆ ก็จะลดลงไปเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งคุณคนนี้ก็เหมาะกับผิวหน้าแห้งถึงแห้ง และผิวธรรมดาค่ะ (ใครผิวแห้งมาก ๆ ลองดู แล้วจะเลิฟ ๆ) ส่วนใครที่ผิวมันและไม่ชอบใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อยู่แล้ว ตัวนี้คงไม่ตอบโจทย์ ต้องไปดูตัวต่อไปแทนค่ะ

จุดเด่น ล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ปรับผิวให้อิ่มน้ำ ชั้นผิว​ โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นตามลำดับ
ประเภท มอยเจอร์ไรเซอร์ครีม
สารสกัดMoisturising
ลักษณะเนื้อโลชั่น
เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวแห้งถึงแห้งมาก

3. Clinique Dramatically Different Moisturizing Gel 

แน่นอนพูดถึงคุณ Lotion+ จะไม่แนะนำน้องเจลงานดีได้ยังไง ชีคือ Clinique Dramatically Different Moisturizing Gel เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวเหมือนกับคุณโลชั่นข้างบนค่ะ แต่แค่เนื้อสัมผัสจะมีความต่างกัน เพราะชีเป็นเนื้อเจล เลยจะค่อนข้างบางเบาและซึมซาบลงสู่ผิวได้ไวมากกก ไม่มีเรื่องความรู้สึกผลิตภัณฑ์กองอยู่บนผิวหน้าเลย (ส่วนตัวรู้สึกแค่ผิวมันฟูขึ้นเท่านั้น ไม่เหมือนตัวโลชั่น) อาจจะเพราะนางไม่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วย เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์คนผิวมันมากเลยละคะ 

สำหรับน้องเจลจาก Clinique ตัวนี้ จะไม่ได้เน้นการคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหนัก ๆ กักเก็บน้ำล็อกผิวหนัก ๆ เท่าตัวโลชั่นนะคะ แต่จะเป็นการเน้นเติมความชุ่มชื้นในระดับที่พอเหมาะพอดีตามความสมดุลของผิว พอผิวของเรามีการเติมเต็มความชุ่มชื้นจากมอยเจอร์ไรเซอร์ โครงสร้างผิวมีความสมดุลในระดับดี ผิวก็จะลดเรื่องการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาเอง วิธีนี้เป็นการลดปัญหาผิวมันส่วนเกินไปได้ดีที่สุดค่าาาแม่ ซึ่งนอกจากชาวผิวมัน ผิวผสมที่คลั่งรักคุณคนนี้แล้ว ชียังเหมาะกับการเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ในช่วงหน้าร้อนด้วย ยิ่งอากาศอย่างไทยแลนด์บ้านเราเนี่ยยิ่งเหมาะ ซึมไวไอเลิฟจ้าา 

จุดเด่นบางเบาซึมลงผิวไวไม่เหนอะหนะ ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
ประเภท มอยเจอร์ไรเซอร์ครีม
สารสกัดMoisturising
ลักษณะเนื้อเจล
เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมัน ผิวมันมาก


4. Clinique Moisture Surge 100H Auto-Replenishing Hydrator

ใครเป็นคนชอบให้ผิวชุ่มชื้นแบบไม่รำคาญ มีความนุ่ม เด้ง ผลิตภัณฑ์ยังคงหลงเหลือไว้ล็อกผิวอยู่  ขอแนะนำ Clinique Moisture Surge 100H Auto-Replenishing Hydrator เลยค่ะแม่ หลายคนน่าจะคุ้นเคยชีนะ เพราะเค้าเป็นไอเท็มดูแลผิวตัวดังระดับตำนานค่ะ (คุณโมเมยังเคยรีวิวไว้เลย) และสำหรับตัว 100H จะเป็นสูตรที่พัฒนามาจากสูตรเก่านั่นแหละ แค่จะเน้นเพิ่ม + กักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับคุณไปยาว ๆ ได้นานถึง 100 ชั่วโมง ซึ่งถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์ล่ะก็ ชีจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้สูงถึง 174% เลยทีเดียวค่ะ 

มากันที่สารสกัดต่าง ๆ ภายในครีมกันหน่อย หลัก ๆ จะประกอบด้วย Aloe Vera Bio-Ferment, Hyaluronic Acid พร้อมกับเทคโนโลยี Auto-Replenishing มารวมพลังช่วยกันทำให้ผิวชุ่มชื้นต่อเนื่อง เปลี่ยนผิวให้แข็งแรง มีทั้งความสมดุล รวมถึงเกราะป้องกันผิวที่ดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำในผิวอีกด้วย แต่หลาย ๆ คนอาจจะกลัวว่า เห็นชุ่มชื้นจัดหนักขนาดนี้ นางจะต้องเป็นครีมที่หนัก เนื้อแน่นจนทำเหนอะหนะผิวแน่ ๆ แต่เปล่าเลยจ้าาาา ชีเป็นครีมเจลมีความบางเบาและซึมไวมากกก แต่จะไม่ได้ซึมไวแล้วหายไปแบบตัว Different Moisturizing Gel นะ นางยังคงให้ความรู้สึกถึงตัวครีมที่นุ่มเด้งหยืดหยุ่นค่อยล็อกผิวอยู่ ซึ่งส่วนตัวชอบความรู้สึกแบบนี้ เป็นความรู้สึกดี ๆ บนผิวค่าาา 

จุดเด่นผิวชุ่มชื้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผิวแข็งแรงขึ้น โครงสร้างผิวความสมดุล มีเกราะป้องกันผิวที่ดี กักเก็บความชุ่มชื้นได้สูงถึง 100 ชั่วโมง
ประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ครีม
สารสกัดAloe Vera Bio-Ferment, Hyaluronic Acid, เทคโนโลยี Auto-Replenishing
ลักษณะครีมเจล
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

5. Clinique Moisture Surge Hydrating Lotion 

งานสกินแคร์พอมีไลน์ใดไลน์หนึ่งดังเบอร์สุด ผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ของแบรนด์นั้น ๆ ก็จะติดร่างแห่ปังตามไปด้วย ซึ่งไลน์ของ Clinique ที่ดังไปตาม ๆ กันก็คือ น้ำตบจากไลน์ Moisture Surge ในตำนานค่ะ ยิ่งคุณ Clinique Moisture Surge Hydrating Lotion ตัวนี้ ก็ดังตามรุ่นพี่มาเรื่อย ๆ โดยชีจะมาในรูปแบบของโลชั่นหรือน้ำตบ เน้นใช้เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้แบบเร่งด่วน ช่วยปลอบประโลมและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป เวลาใช้ ก็ใช้หลังจากทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์เสร็จ หรือเริ่มใช้เป็นตัวแรกในการบำรุงค่ะ

มากันที่เนื้อสัมผัสกันหน่อย ถึงชีจะได้ชื่อว่าเป็นโลชั่นสูตรน้ำ แต่ชีก็ไม่ได้ใสแจ๋วจนเหมือนน้ำเปล่าขนาดนั้นนะ เค้าจะมีความหนืดกว่าน้ำตบใส ๆ ทั่ว ๆ ไป แต่พอเวลาใช้ก็จะมอบความรู้สึกสดชื่น ซึมไว ไม่ต่างจากน้ำตบเหลว ๆ ที่ใช้แล้วสบายผิวเลยล่ะ และจุดเด่นอีกอย่างนอกจากความชุ่มชื้นแล้ว คุณคนนี้ยังสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย อยากให้ผิวชุ่มชื้นตั้งแต่การบำรุงครั้งแรกก็หยิบขวดนี้ใช้ได้เลยนะทุกคน ไม่ต้องคิดเยอะ แพ้ง่ายใช้ได้ เพราะคุณคนนี้ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังและจักษุแพทย์มาแล้วเรียบร้อย ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม 100% เวลาใช้อาจจะรู้สึกกลิ่นแปลก ๆ ไปหน่อย แต่เข้าใจได้ ไม่ได้แต่งกลิ่นอะเนอะ 

จุดเด่นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้แบบเร่งด่วน ช่วยปลอบประโลมและเตรียมผิวให้พร้อมบำรุงในขั้นตอนต่อไป
ประเภทโลชั่น น้ำตบ
สารสกัดHyaluronic Acid, ปราศจากแอลกอฮอล์ และน้ำหอม
ลักษณะโลชั่นเนื้อน้ำ
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

6. Clinique Clarifying Lotion Twice day Exfoliator 

ใครที่อยากได้โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวตัวเองจริง ๆ คุณ Clinique เค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ชีโดดเด่นอยู่แล้วเรื่องทำผลิตภัณฑ์ดี ๆ ให้สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว หรือแยกไอเท็มอย่างละเอียดชัดเจนเลยว่า ตัวไหน สูตรไหน เหมาะกับใคร คุณคนนี้ก็คือ Clinique Clarifying Lotion Twice day Exfoliator เป็นโลชั่นสำหรับเช็ดทำความสะอาดผิว (อารมณ์โทนเนอร์อ่ะพวกเธอ) ช่วยในเรื่องขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออก แก้ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นในแต่ละสภาพผิว ทำให้ผิวเนียนเรียบ เตรียมพร้อมที่จะรับการบำรุงในขั้นต่อไปค่ะ 

อย่างที่บอกว่าคุณโลชั่นตัวนี้สามารถขจัดเซลล์ แก้ปัญหาที่เกิดกับแต่ละสภาพผิวได้ ชีจึงมีสูตรให้เลือกตามลักษณะผิวของแต่ละคน ทำมาแบบจุก ๆ ถึง 5 สูตรด้วยกัน โดยจะแบ่งเป็นสูตร 1 สำหรับคนผิวแห้ง แห้งมาก, สูตร 2 สำหรับคนผิวผสม มันเฉพาะส่วนทีโซน, สูตร 3 สำหรับคนผิวมัน, สูตร 4 ผิวมันมากเป็นพิเศษ และสูตร 1.0 สูตรไม่มีแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย (แต่จริง ๆ ก็สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ถ้าไม่อยากคิดมาก ลองซื้อจากสูตรนี้ดูก่อนก็ได้) ก็ลองไปเลือกลองเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองน้าา 

จุดเด่นเช็ดทำความสะอาดผิวช่วยในเรื่องขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออก แก้ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นในแต่ละสภาพผิว
ประเภทโลชั่น, โทนเนอร์
สารสกัดสารขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
ลักษณะเนื้อน้ำ ใส
เหมาะสำหรับมีให้เลือกเหมาะกับผิว


7. Clinique iD : Dramatically Different™ Hydrating

เปิดตัวมาก็ดังเป็นพลุแตกคนตามหากันให้ทั่วค่ะ สำหรับน้อง Clinique iD : Dramatically Different™ Hydrating ต้องบอกว่าเป็นการเลือกสกินแคร์ที่สนุกที่สุดตั้งแต่เคยซื้อใช้มาเลยค่ะ เพราะชีจะให้เราเลือก Mix&Match เนื้อครีม สรรพคุณให้เหมาะกับลักษณะผิว หรือปัญหาผิวที่คุณกำลังเจอ ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่า จะไม่คุ้มกับเงินที่จ่าย เพราะถือว่าเป็นสกินแคร์ที่คุณเลือกจากความต้องการของตัวเองล้วน ๆ ค่ะ 

มากันที่สูตรต่าง ๆ ของคุณ Clinique ตัวนี้กันหน่อย วิธีการเลือกของเค้าจะมีให้เลือกจับคู่ 2 ส่วนด้วยกันค่ะ ส่วนแรกจะเป็นการเลือกตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ ตัวนี้จะเป็นการเลือกตามสภาพผิวหน้าของตัวเอง มีให้เลือกทั้งเนื้อเจล, โลชั่น, เจลลี่, โทนอัปเจล และคลีนเจล แต่ละตัวจะระบุไว้เลยว่า เหมาะกับผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย หรือจะเลือกให้เหมาะกับทุกสภาพผิวก็มีเหมือนกัน ส่วนที่ 2 จะเป็นการเลือกแท่ง Booster เพื่อเน้นบำรุงแก้ปัญหาเฉพาะจุด มีให้เลือก 7 บูสเตอร์ด้วยกัน ตั้งแต่เรื่องลดรอยสิว รูขุมขน, ปรับผิวให้แข็งแรง, แก้จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ, ฟื้นฟูความชุ่มชื้น เหนื่อยล้า, แก้ริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์, ปรับผิวสว่างใส อมชมพู และแก้ปัญหาผิวอ่อนแอ แพ้ง่ายจากมลภาวะ ซึ่งแต่ละตัวจะมีแยกสีชัดเจน เลือกง่ายไม่จำสับสนแน่นอน สาว ๆ ก็ไปลองเลือกกันดูนะ สนุกแบบมึน ๆ เลยล่ะค่าา

จุดเด่นMix&Match เนื้อครีม สรรพคุณให้เหมาะกับลักษณะผิว หรือปัญหาผิวที่คุณกำลังเจอ ตอบโจทย์กับปัญหาผิวของตนเองมากที่สุด
ประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ครีม
สารสกัดHydrate, สารสกัดเฉพาะการบำรุง
ลักษณะมีให้เลือก เนื้อเจล โลชั่น เจลลี่ โทนอัปเจล และคลีนเจล
เหมาะสำหรับทุกสภาพและปัญหาผิว

8. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer

8. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer

ราคาโดยประมาณ 1,399 บาท ต่อ 50 ml

ขออวยยศให้ชีเป็นม้ามืดแห่งวงการมอยเจอร์ไรเซอร์เลยค่ะ ปกติพอพูดถึงไอเท็มประเภทนี้เราจะนึกถึงแค่การเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวอิ่มฟูต่าง ๆ แต่คุณคนนี้ชีมาเหนือเติมความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย รอยย่น ความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอได้ นางคือคุณ Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer แค่ชื่อก็ชัดเจนเนอะว่าทั้ง Repair และ Age Transformer พลิกผิว เปลี่ยนผิวให้กลับมาสดใสซาบซ่าได้แบบสุดปังจ้า 

โดยมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ จะเป็นเจลนุ่ม ๆ สูตรฟื้นฟูสภาพผิวให้แน่นและยกกระชับโดยเฉพาะ ชีมีเทคโนโลยีเฉพาะตัว Morpho Technology + Custom Repair ทำให้ตัวครีมจะยิ่งเน้นตรงเข้าบำรุงจุดที่ต้องการแก้ปัญหา และชียังมีสารสกัดจากเมล็ดถั่วเหลือง ไกลซีน โซจา ช่วยในเรื่องกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวโดยธรรมชาติ รวมถึงมีสารสกัดจากเมล็ดสวีทอัลมอลด์ ให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือน พร้อมด้วยเวย์ โปรตีน เข้ามาช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ เติมเต็มริ้วรอยแห่งวัย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ซึ่งใครที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย หรือไม่อยากให้หน้าไปไกลเกินอายุ ต้องบอกเลยว่า จัดชีไปใช้ด่วน ๆ ค่า! 

จุดเด่นฟื้นฟูสภาพผิวให้แน่นและยกกระชับ ซ่อมแซมผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เต็มความชุ่มชื้น สร้างเซลล์ผิวใหม่ เติมเต็มริ้วรอยแห่งวัย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ครีม
สารสกัดเทคโนโลยี Morpho Technology + Custom Repair, สารสกัดจากเมล็ดสวีทอัลมอลด์, ​เวย์โปรตีน
ลักษณะเนื้อครีมเจล
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว มีปัญหาริ้วรอย ไม่กระชับ

9. Clinique Cheek pop & pearl pop

พูดถึงกลุ่มสกินแคร์กันมาเยอะ ต้องบอกก่อนว่า ชีไม่ได้มีแค่ไลน์ดูแลผิวเท่านั้นนะ แต่งานบิ้วตี้ เครื่องสำอางก็มีเหมือนกัน (แล้วก็เชื่อว่าสายบิวตี้น่าจะเคยเห็น หรือมีอยู่ในครอบครองกันมาบ้างแล้ว) คุณคนนี้คือ Clinique Cheek pop & pearl pop บลัชออนงานปัง ดังเป็นพลุแตก ความเริ่ดของน้อง Cheek pop ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือ เรื่องของเฉดสีค่ะ มีเยอะมากกกก แถมคุณเค้าทำสีออกมาได้น่ารักมุ้งมิ้ง โดยเฉพาะตระกูลสีพาสเทล สีสดใส มองแล้วมันดูหนุบหนับไปหมด ที่สำคัญเวลาเราสวอช หรือใช้แปรงปัดแก้มปัดผลิตภัณฑ์ขึ้นมา สีเค้าจะเกาะออกมาแบบพอดี ๆ ไม่ได้เยอะจนลงปุ๊ปแล้วกลายเป็นแก้มลิง เกลี่ยง่ายไม่กระจุกด้วย ซึ่งเราตามหาบลัชออนงานดีแบบนี้มานานแล้วจ้า

และนอกจากความเกลี่ยง่าย สีออกมาไม่มากไม่น้อยจนเกินไปแล้ว (บางคนมองว่าสีมันอ่อนไป แต่เรามองว่าดีนะ งานแก้มพอเข้มแล้วมันแก้ยากอะ ลงเพิ่มไปเรื่อย ๆ ดีกว่า) เม็ดสียังตรงปกมาก สีในตลับเป็นยังไงจิกสีลงผิวก็เป็นแบบนั้น แถมเนื้อผลิตภัณฑ์ยังติดทน บางเบา แต่ปกปิดดีงาม ส่วนตัวบลัชออนจะมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน มีแบบ blush pop เน้นความสวยหวานเป็นธรรมชาติ มีความฉ่ำสวยเล็กน้อยแต่ไม่กระโตกกระตาก ส่วนแบบที่ 2 จะเป็น Pop Pearl มีความชิมเมอร์ตาแตกมากกว่ารุ่นแรก มีความฉ่ำวาวกรุบ เพิ่มมิติโดดเด่นให้ใบหน้า ก็ชอบแบบไหนก็จัดได้ หรือจะเหมา ๆ ก็ยิ่งดีค่าา

จุดเด่นบลัชออนสีสวย มีให้เลือกหลายเฉดสี เม็ดสีชัดตรงปก ไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไป เบลนง่ายกระจายตัวดี ใช้ได้นาน
ประเภทบลัชออน
สารสกัด
ลักษณะแป้งฝุ่นอัดแข็ง
เหมาะสำหรับทุกสีผิว

10. Clinique Happy

คือต้องยอมรับเลยว่า Clinique ชีทำอะไรออกมาก็ปังจริง ๆ ไม่ได้เริ่ดแค่เฉพาะฝั่งดูแลผิวเท่านั้นนะ แต่ฝั่งอื่น ๆ อย่างน้ำหอม ชีก็เริ่ดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Clinique Happy ซึ่งถือเป็นน้ำหอมรุ่นดังระดับตำนานของ Clinique เลยค่ะ และแค่สาว ๆ ได้เห็นแค่ขวดของชี ก็น่าจะร้องอ๋อออแล้ว เพราะดังมาก! ดังจนน้ำหอมไลน์อื่น ๆ งอกออกมาเพียบ กลิ่นโดยรวมของชีจะเน้นไปทางหอมหวาน ดอกไม้ มีความสดชื่นไม่หวือหวา ดมแล้วรู้สึกถึงความสบาย อบอวล มีเสน่ห์ ดมแล้วอยากดมต่อเรื่อย ๆ ค่ะ 

มาเจาะลึกกันที่โทนกลิ่นต่าง ๆ ของคุณเค้ากันบ้างค่ะ ชีจะเน้นไปที่กลิ่นตระกูลดอกไม้ต่าง ๆ เป็นหลัก โดยตัวน้องแฮปปี้ขวดส้มในตำนานจะเป็นกลิ่นหอมบางเบาจากกลีบดอกไม้ต้น West Indian Mandarin Tree Blossom, Boysenberry Bush Flower ผสมผสานความเย็นจากกลิ่นในตระกูล citrus ถึงบอกไงว่า เป็นความหอมหวานที่สดชื่น ดมแล้วสบายใจ สามารถใช้เป็นน้ำหอม Everyday Use ได้เลยค่า

จุดเด่นน้ำหอมตัวดัง กลิ่นเน้นหอมหวานสไตล์ดอกไม้ มีความสดชื่นไม่หวือหวา ดมแล้วรู้สึกถึงความสบาย อบอวล มีเสน่ห์
ประเภทน้ำหอม
สารสกัดกลิ่นโทน West Indian Mandarin Tree Blossom, Boysenberry Bush Flower, citrus
ลักษณะใส กลิ่นฟุ้งกระจายเป็นอย่างดี ไม่ต้องใช้เยอะ
เหมาะสำหรับผู้หญิง

ไงจ๊ะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่สนใจจะซื้อผลิตภัณฑ์ของ “Clinique” ตัวไหนดี ก็หลังจากที่ได้เห็นรีวิวทั้ง 10 ตัวที่น่าสนใจกันไปแล้ว ไม่ทราบว่า อยากจะซื้อตัวไหน รุ่นไหน ไปใช้งานกันบ้างค่ะ ??? ก็ขึ้นชื่อว่า Clinique งานแต่ละตัวออกมาดี ออกมาปัง ออกมาได้อย่างมีคุณภาพกันแน่ ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้แล้วไม่ดีกันเลยล่ะ (ก็ดูแต่ละตัวสิ ราคาแอบแรงตามสไตส์สินค้าแบรนด์ระดับ Top ๆ เนาะ) ยังไงก็ขอให้ได้ผลิตภัณฑ์ Clinique ตัวที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ ผิวดีขึ้น ผิวงามขึ้น ผิวปัง ๆ ขึ้น กันด้วยค่าา



Leave a Comment