สมาร์ทวอช Huawei รุ่นไหนน่าใช้ รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ สมาร์ทวอช Huawei รุ่นไหนน่าใช้ รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

ใครเป็นสาย Gadget สาย Health ที่กำลังมองหาสมาร์ทวอชราคาที่ไม่แรงมาก แบตอยู่ได้นานๆ และต้องใช้ได้กับสมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อแบบเต็มสตรีม รวมไปถึงอยากได้ฟังก์ชั่นที่ช่วยคำนวณการออกกำลังกายแบบจุกๆ หรือจะใช้เป็นเครื่องประดับให้แมชกับลุคแต่งตัวในแต่ละวันก็สุดปัง แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อสมาร์ทวอชรุ่นไหนดี เพราะบางแบรนด์ บางยี่ห้อก็แพงแสนแพงเหลือเกิน ลองมองมาทางนี้สิ ไม่ใช่แบรนด์ไหนไกล แบรนด์ Huawei นั่นเอง วันนี้ทางเราก็ได้รวบรวม “สมาร์ทวอช Huawei” รุ่นไหนน่าใช้ มาให้ถึง 10 รุ่น รับรองว่าได้ทุกอย่าง ตามที่บอกไว้แน่นอน จะมีรุ่นไหนกันบ้าง มาดูกันเลยครับ



เลือกซื้อ “สมาร์ทวอช Huawei” ยังไงให้เหมาะกับตัวเรา

เลือกซื้อ "สมาร์ทวอช Huawei" ยังไงให้เหมาะกับตัวเรา

ราคาและดีไซน์ สมาร์ทวอช Huawei นั้น มีหลากหลายราคาให้ได้เลือกสรร ถ้าหากเป็นตัวเริ่มต้นที่มีราคา 2,499 จะได้ดีไซน์จอแบบสี่เหลี่ยม ดูทันสมัยอย่าง WATCH FIT ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น วัยเรียน นักศึกษา แต่ถ้าหากอยากได้ดีไซน์แบบทรงกลมสุดคลาสสิคที่ดูแพงขึ้นมา สามารถเปลี่ยนสายได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายหนัง สายซิลิโคลน หรือสเตนเลส เพื่อให้แมทช์กับการแต่งตัว ก็อาจจะต้องเพิ่มเงินมาดูในรุ่น WATCH , WATCH GT ที่มีราคาตั้งแต่ 3,790 ขึ้นไป ที่จะมาพร้อมความสามารถที่เพิ่มขึ้น และความแพงก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุของตัวเรือนอีกด้วย โดยเฉพาะ Stainless, Titanium, Ceramic ที่มักจะแพงกว่ารุ่นทั่วไปครับ

ฟังก์ชั่นและแบตเตอรี่ ตั้งแต่ตัวเริ่มต้นจะมีโหมดออกกำลังกายมาตรฐานมาให้ถึง 96 แบบ แบตเตอรี่สามารถสแตนด์บายได้ 5-10 วัน สบายๆ ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รวมถึงมีเซนเซอร์ตรวจจับการทำงานของร่างกายต่างๆ มาให้ด้วย เช่น ตรวจวัดการเต้นของหัวใจ ตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด ตรวจคุณภาพการนอนหลับ ตรวจวัดความเครียดในร่างกาย เรียกว่ามีมาให้ค่อนข้างครบเลยทีเดียว

ถ้าเป็นในรุ่นที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย ก็จะเพิ่มโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 แบบ แบตเตอรี่สามารถสแตนด์บายได้มากถึง 14-21 วัน (บางรุ่นชาร์จแค่ 5 นาที ก็ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวันเลย) ส่วนตัวเซนเซอร์ก็ให้ความแม่นยำได้มากกว่าและละเอียดกว่า เช่น ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทางเดินหายใจ การเผาผลาญ ระบบไหลเวียนโลหิต ส่วน Huawei Watch 3 ก็รองรับระบบ e-sims อีกด้วย รับสาย โทรเข้า-ออก ฟังเพลงผ่านตัวสมาร์ทวอชได้ โดยไม่ต้องพกมือถือครับ

ใครที่กำลังมองเซนเซอร์วัด Heart Rate แม่น ๆ แนะนำลองดูรุ่น Huawei Watch GT3 และ GT Runner เลย เค้าว่ากันว่า แม่นพอ ๆ กับ Apple Watch เลยครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “สมาร์ทวอช Huawei” รุ่นไหนน่าใช้

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "สมาร์ทวอช Huawei" รุ่นไหนน่าใช้

เผื่อใครที่อยากจะเห็นสินค้า “ สมาร์ทวอช Huawei ” แบบพร้อม ๆ กัน 10 รุ่นแบบสั้นๆ สามารถเลื่อนไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบ ราคา, วัสดุ, ขนาด-น้ำหนัก, ประเภท-ความละเอียดของหน้าจอ และจุดเด่นอื่นๆ ได้แบบง่าย ๆ แนะนำให้กดที่ปุ่มสีแดงด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันได้เลยครับ



1. HUAWEI WATCH GT 2e

สำหรับสมาร์ทวอช HUAWEI WATCH GT 2e รุ่นนี้เอาใจสายสปอร์ตจัด ๆ ดีไซน์สวยเท่ หน้าปัดทรงกลม แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 2 สัปดาห์ ด้วยชิปเซ็ต Kirin A1 ที่ช่วยปรับการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม ทำให้แบตมีอายุการใช้งานได้นานขึ้น ส่วนใครที่มีดนตรีในหัวใจ ตัวนี้เขาเก็บเพลงได้มากถึง 500 เพลง จะเปิดฟังเพลิน ๆ ระหว่างไปไหนมาไหน หรือจะฟังไปออกกำลังกายไปก็เวิร์กสุด ๆ ครับ

อวดความเป็นตัวเองแบบขั้นสุดโดยออกแบบหน้าปัดเองได้ ไม่ว่าจะลวดลายกราฟิก หรือรูปแบบการแสดงเวลา สีจอก็สดใสสวยแจ่ม ด้วยหน้าจอ AMOLED ระบบทัชสกรีน ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 HD ฟังก์ชันเรื่องการออกกำลังกายก็เพียบ มีโหมดออกกำลังกายแบบกำหนดเองมากถึง 85 โหมด รวมทั้งโหมดมืออาชีพอีก 15 โหมด รวม ๆ ก็ร้อยแล้วจ้า และยังใช้วัดค่าออกซิเจนในเลือด ติดตามค่าความเครียดตลอดวันได้ด้วย นอกจากนี้จะใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เป็นรีโมตสำหรับกดชัตเตอร์ถ่ายรูปก็ได้อีก สมาร์ทวอชตัวเดียวทำอะไรได้หลายหลากมาก ๆ ที่สำคัญราคามิตรภาพเวอร์ ยิ่งช่วงแฟลชเซลนี่ไม่ต้องพูดถึง รีบคว้ามาให้ไวเลยครับ

วัสดุ / สายMetal + Plastic Screen / Silicone
ขนาด / น้ำหนัก53 x 46.8 x 10.8 mm / 43 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.39” / 454 x 454 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นออกแบบหน้าปัดได้ / ใช้งานได้นาน 2 สัปดาห์ / 100 โหมดออกกำลังกาย

2. HUAWEI WATCH FIT new

ฟิตร่างกายกันให้เต็มที่ไปกับ สมาร์ทวอช HUAWEI WATCH FIT new ที่จัดความฟิตให้คุณสมชื่อ หน้าปัดออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยม สายยางซิลิโคน น้ำหนักเบาแค่ 21 กรัม ใส่แล้วสบายข้อมือมาก ๆ หน้าจอ AMOLED สีสันสดคมชัด เลือกธีมหน้าจอให้เหมาะกับลุคแต่ละวันได้ วันไหนเป็นงานเป็นการก็เลือกธีมหน้าจอสีสุภาพหน่อยประมาณนั้น หรือยังไม่ถูกใจจะเลือกภาพถ่ายตัวเองมาปรับแต่งก็ได้เหมือนกันนะ หน้าจอขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียด 280 x 456 พิกเซล ตัวกรอบและสายยังมีสีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Pomelo Red, Isle Blue, Sakura Pink และ Graphite Black ชอบโทนไหนก็จัดได้เลยครับ

มาดูเรื่องฟีเจอร์ซัพพอร์ตความฟิตทั้งหลายกันบ้าง รุ่นนี้เขามีโหมดออกกำลังกายถึง 96 โหมดให้เลือก ส่วนใครมือใหม่เพิ่งเริ่มต้นก็มีวิดีโอสาธิตต่าง ๆ รวมทั้งภาพอนิเมชันให้ออกกำลังกายตามได้ง่าย ๆ จะออกที่บ้าน ที่ออฟฟิศ หรือที่ไหนที่ว่าง ๆ ก็ทำได้เลยตามสะดวก ออกกำลังกายไปพร้อมวิเคราะห์ข้อมูลร่างกายไปด้วย เมื่อไหร่ที่ไม่ฟิต นั่งนานเกินไปแล้ว ก็มีโหมดเตือนให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง นอกจากนี้ยังตรวจสอบการนอนหลับ ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ติดตามระดับความเครียด และติดตามรอบเดือนของผู้หญิงได้ด้วย จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มความสะดวกให้มากขึ้นก็ทำได้หมด บอกเลยคุณสมบัติเพียบพร้อม ราคาดีงาม ใช้อย่างไรก็คุ้มครับ

วัสดุ / สายFiber Polymer / Silicone
ขนาด / น้ำหนัก46 x 30 x 10.7 mm / 21 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.64” / 280 x 456 pixel
กันน้ำ50 m
จุดเด่นน้ำหนักเบา / วิดีโอสาธิตและภาพอนิเมชันท่าออกกำลังกาย / 96 โหมดออกกำลังกาย

3. HUAWEI WATCH GT 2

จะชอบสายหนังหรือรักสายซิลิโคนก็เลือกได้ สำหรับรุ่น GT2 ในตระกูล HUAWEI WATCH ดีไซน์สไตล์สปอร์ตให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน ตัวเรือนทำจากสเตนเลสและพลาสติก ส่วนสายนั้นมีให้เลือกแบบสายซิลิโคน จะเป็นตัวสีดำ Matt Black หรือแบบสายหนังเป็นสีน้ำตาล Pebble Brown ดูดีดูปังทั้ง 2 แบบ หน้าปัดกระจก 3 มิติคุณภาพสูง ดีไซน์ไร้ขอบทำให้มองเห็นข้อมูลชัดเจนเต็มตา หน้าจอ AMOLED ทัชสกรีน รองรับทุกการใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น และยังใช้เทคโนโลยีชิปเซ็ต Kirin A1 ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 2 สัปดาห์ และรองรับการชาร์จแบบแม่เหล็กได้ด้วยครับ

ส่วนของการออกกำลังกายนั้นก็จัดหนักจัดเต็ม ด้วยโหมดออกกำลังกว่า 100 โหมด ติดตามกิจกรรมด้วยระบบ GPS สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ติดตามการนอนหลับและอัตราความเครียดได้ด้วย ระดับการกันน้ำอยู่ที่ 5 ATM หรือเทียบเท่าน้ำลึก 50 เมตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเป็นรีโมตก็ได้ รองรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้หมด เรียกว่ามีครบทุกฟังก์ชัน สะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ ยอดขายก็ดี รีวิวคุณภาพแน่น เห็นอย่างนี้แล้วก็ตัดสินใจไม่ยากเลยครับ

วัสดุ / สายStainless + Plastic / Leather, Silicone
ขนาด / น้ำหนัก45.9 x 45.9 x 10.7 mm / 41 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.39” / 454 x 454 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นใช้งานยาวนาน 2 สัปดาห์ / ดีไซน์หน้าปัดไร้ขอบ / 100 โหมดออกกำลังกาย


4. HUAWEI WATCH GT 3

สมาร์ทวอช HUAWEI WATCH GT 3 รุ่นนี้ดีไซน์มีความหรูหราคลาสสิก หน้าปัดกลมมี 2 ขนาดให้เลือก คือ 46 มิลลิเมตร ซึ่งมีทั้งแบบสายหนังและสายซิลิโคน หน้าจอสี AMOLED คมชัดสดใส ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 HD น้ำหนัก 42.6 กรัม ตัวนี้ชาร์จ 1 รอบใช้งานปกติได้นานถึง 14 วันเลยทีเดียว ส่วนแบบหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร จะมีสายซิลิโคนและสายสเตนเลส Milanese (สายโลหะแบบถัก) หน้าจอสี AMOLED ขนาด 1.32 นิ้ว น้ำหนักเบากว่าอยู่ที่ 35 กรัมเท่านั้น เวลาใช้งานต่อการชาร์จ 1 รอบคือ 7 วัน น้อยกว่าหน่อยแต่ราคาก็ต่ำกว่าตามไปด้วย ลองดูว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราก็เลือกได้เลยครับ

ในส่วนฟีเจอร์การใช้งานอื่น ๆ นั้นมีมาให้ครบ หน้าปัดที่เลือกธีมได้หลากหลายปรับเปลี่ยนได้ตามลุคไม่ซ้ำวัน มีปุ่มสั่งการแบบหมุนที่ใช้ซูมเข้าและออกจากแอปได้อย่างง่ายดาย สามารถวัดค่าต่าง ๆ ในร่างกายได้ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด มีระบบติดตาม GPS ช่วยนำทางกลับอย่างแม่นยำ ฟังก์ชัน AI Running Coach ที่เหมือนมีโค้ชส่วนตัวมาช่วยแนะนำการวิ่งที่เหมาะสม จะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นก็แนะนำโปรแกรมการซ้อมให้ได้หมด และยังรองรับโหมดออกกำลังกายอีกกว่า 100 โหมดอีกด้วย เรียกว่าสายสปอร์ตไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

วัสดุ / สายStainless + Plastic / Leather, Silicone, Milanese
ขนาด / น้ำหนัก45.9 x 45.9 x 11 mm / 42.6 g
42.3 x 42.3 x 10.2 mm / 35 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.43” / 466 x 466 HD
1.32” / 466 x 466 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นมีหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด / ฟีเจอร์ AI Running Coach / 100 โหมดออกกำลังกาย

5. HUAWEI WATCH GT 2 Pro

สมาร์ทวอช HUAWEI WATCH GT 2 Pro พัฒนาขึ้นมาอีกขึ้นจาก GT 2 รุ่นนี้มีความแข็งแรงทนทาน ด้วยตัววัสดุหลักไทเทเนียม บวกกับด้านหลังเป็นเซรามิกเคลือบเงา และกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี จะบอกว่าเป็นรุ่นที่ดูสตรองก็ไม่ผิด และแม้จะแข็งแกร่งแต่น้ำหนักเบาเพียง 21 กรัมเท่านั้น ดีไซน์ตัวเรือนสีเทา Nebula Gray ให้ความรู้สึกเท่แบบสุขุมนุ่มลึก สายนาฬิกามีทั้งแบบสายหนังและซิลิโคน หน้าปัดก็มีธีมลวดลายให้เลือกหลากหลาย จะเปลี่ยนสายเปลี่ยนธีมให้เข้ากับลุคในแต่ละวันก็ทำได้สะดวกมาก ๆ ครับ

รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Kirin A1 ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 14 วันต่อการชาร์จ 1 รอบ หน้าจอสีทัชสกรีน AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 HD รองรับกิจกรรมกลางแจ้งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะไดร์ฟกอล์ฟ ปีนเขา เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยซัพพอร์ตได้อย่างเต็มที่ มีโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด และยังช่วยดูแลสุขภาพให้ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดการเต้นของหัวใจ การวัดค่าออกซิเจนในเลือด ตรวจคุณภาพการนอนหลับ และตรวจวัดความเครียดในร่างกาย รวมทั้งยังมีพื้นที่จัดเก็บเพลงไว้ฟังเพลิน ๆ ระหว่างออกกำลังกายได้อีกด้วยครับ

วัสดุ / สายTitanium + Ceramic / Leather, Silicone
ขนาด / น้ำหนัก46.7 x 46.7 x 11.4 mm / 21 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.39” / 454 x 454 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นวัสดุแข็งแรงทนทาน / น้ำหนักเบา / 100 โหมดออกกำลังกาย

6. HUAWEI WATCH 3

สายแอคทีฟชอบสายยาง หรือถ้าเป็นสายเนี๊ยบก็มีสายหนังให้ได้เลือกตามสไตล์ที่ใช่คุณ สำหรับ สมาร์ทวอช Huawei 3 มากกว่าความสวยงามชวนมองของงานดีไซน์สุดพิถีพิถัน ที่มาในลุคคลาสสิกแต่มีเอกลักษณ์โดดเด่นนี้ คือฟังก์ชันล้ำ ๆ มากมาย ทั้งรองรับการเชื่อมต่อด้วย eSIM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน จะใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสาร เปิดเพลง ดาวน์โหลดแอปต่าง ๆ สามารถทำได้หมดโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และไม่ต้องเปิดเบอร์เพิ่มด้วยครับ

แล้วยังเหมือนมีผู้ช่วยด้านสุขภาพประจำตัว มีเทรนเนอร์ช่วยดูแลการออกกำลังกาย คอยตรวจค่าออกซิเจนในเลือด วัดอัตราการเต้นของหัวใจในขณะเวิร์คเอาท์ หรืออย่างเช็คจำนวนก้าว แคลอรี่ที่เผาผลาญ คุณภาพการนอนหลับ ระดับความเครียด และอีกมากมายที่สมาร์ทวอชรุ่นนี้ทำได้ นี่ยังไม่รวมรายการออกกำลังกายอีก 100 โหมดนะ ซึ่งข้อมูลทุกอย่างจะถูกบันทึกอย่างละเอียดไว้ในแอป HUAWEI Health เป็นการติดตามพฤติกรรมประจำวัน เพื่อตรวจสอบสุขภาพและวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมนั่นเองครับ

วัสดุ / สายStainless + Ceramic / Leather, Silicone, Stainless
ขนาด / น้ำหนัก46.2 x 46.2 x 12.5 mm / 54 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.43” / 466 x 466 pixel
กันน้ำ50 m
จุดเด่นรองรับ eSIM / 100 โหมดออกกำลังกาย


7. HUAWEI WATCH GT RUNNER

สมาร์ทวอช HUAWEI WATCH GT RUNNER คือนาฬิกาที่นักวิ่งควรมี ช่วยเลือกแผนการวิ่งที่ใช่ และปรับแต่งคอร์สการฝึกซ้อมได้ตามที่ต้องการ ด้วย AI Running Coach เพื่อให้เหมาะสมกับเพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อัตราการเต้นของหัวใจ ให้ได้ระยะทาง ความถี่ และความเร็วในการวิ่งที่เหมาะสม โดยเป็นการประมวลผลข้อมูลตามหลักวิทยาศาสตร์ แล้วปรับตารางการวิ่งให้ผู้ใช้ล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนั่นเองครับ

อย่างที่ทราบกันดีว่านาฬิกาทั่ว ๆ ไปค่อนข้างจะมีน้ำหนัก แต่ในการวิ่งเราคงไม่ต้องการเพิ่มน้ำหนักใด ๆ อันจะเป็นภาระให้กับร่างกาย ดังนั้น GT RUNNER จึงมีน้ำหนักเพียงแค่ 38.5 กรัม เท่านั้น ให้คุณพริ้วไหวได้ดั่งสายลม พร้อมความรู้สึกสบายทุกครั้งที่สวมใส่ด้วยการดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากกระจังหน้ารถสปอร์ต มีช่องระบายอากาศเพื่อการถ่ายเทที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างการใช้รับโทรศัพท์และเปิดเพลงก็สามารถทำได้ครับ

วัสดุ / สายFiber Polymer / Silicone
ขนาด / น้ำหนัก46.4 x 46.4 x 11 mm / 38.5 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.43” / 466 x 466 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นน้ำหนักเบา / มี AI Running Coach / ดีไซน์เก๋จากกระจังหน้ารถสปอร์ต

8. HUAWEI WATCH 3 Pro

สมาร์ทวอช Huawei 3 ก็ว่าดีแล้ว แต่ สมาร์ทวอช Huawei 3 Pro ต้องบอกว่าดีแบบขั้นกว่า มาดูที่หน้าตาจะมีความพรีเมียมมากขึ้น แต่ละดีเทลรับรู้ได้ถึงความมีระดับ รุ่นนี้จะไม่มีสายยางเลย จะมีให้เลือกเพียงสายหนังกับไทเทเนียมเท่านั้น ถือเป็นการคุมธีมสง่างามไม่แตกแถวไปทางแอคทีฟให้ทับลายรุ่นเล็ก ส่วนตัวเรือนเป็นไทเทเนียมขัดเงา ดีไซน์หน้าปัดกลมสุดคลาสสิกขนาดใหญ่ 1.43 นิ้ว หน้าจอ AMOLED สุดคมชัด แล้วเสริมความแข็งแรงด้วยเซรามิกอีกทีครับ

การใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 3 วัน ของ สมาร์ทวอช Huawei 3 ก็ว่าว้าวแล้ว เจอรุ่นนี้เข้าไป 5 วัน จันทร์ – ศุกร์ ไม่ต้องชาร์จแบตก็อยู่ได้สบาย ๆ ในสมาร์ทโหมดปกติ แต่ถ้าใช้ Ultra-Long Battery Life Mode ก็ยาวไปเลย 21 วัน เกือบเดือนที่ไม่ถูกเติมพลังงานก็ยังไหว ยิ่งถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยด้วยก็คือว้าวซ่า ไม่ต้องคอยหาที่ชาร์จให้วุ่นวาย สามารถรีเวิร์สชาร์จกับรุ่นที่รองรับได้ ทั้งเท่ ทั้งสะดวกสุด ๆ ไปเลย

วัสดุ / สายTitanium + Ceramic / Leather, Titanium
ขนาด / น้ำหนัก48 x 49.6 x 14 mm / 63 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.43” / 466 x 466 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นมี Ultra-Long Battery Life Mode ใช้งานยาว 21 วัน /
รีเวิร์สชาร์จกับสมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่นที่รองรับได้

9. HUAWEI WATCH FIT 2

HUAWEI WATCH FIT 2 เริ่มที่หน้าจอ FullView Display 1.74 นิ้ว กันก่อนเลย เพียงยกข้อมือขึ้น ทั้งข้อมูลการออกกำลังกาย ไปจนถึงสายเรียกเข้า ก็จะเห็นเด่นชัดบนหน้าจอ AMOLED ขอบบางแคบเป็นพิเศษนี้ จึงมีพื้นที่แสดงผลใหญ่ขึ้น รองรับการโทรผ่านบลูทูธ ทั้งยังเชื่อมกับรายชื่อผู้ติดต่อจากสมาร์ทโฟน และสามารถตอบกลับข้อความด่วนได้ แถมแบตยังอึด ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 10 วัน และถึงแม้วันไหนพลังไฟจะหมดเกลี้ยง หากได้ชาร์จเพียง 5 นาที ก็อยู่ได้นาน 1 วันเต็ม ๆ แล้วครับ

ฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ มีระบบจัดการด้านสุขภาพที่รวมฟีเจอร์อัจฉริยะระดับสูงไว้ครบเครื่อง อย่างอัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ หรือแม้กระทั่งการตรวจวัดความเครียด สามารถวัดค่า SpO2 ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพทางเดินหายใจ การเผาผลาญ และระบบไหลเวียนโลหิต ได้โดยอัตโนมัติตลอดทั้งวัน พร้อมการแจ้งเตือนเมื่อระดับ SpO2 ต่ำเกินไป และสุดท้ายก็คือแอนิเมชันฟิตเนสดีไซน์พิเศษ ให้คุณสามารถขยับตามได้ง่าย ๆ ทั้งการวอร์มอัป การวิ่ง ปั่นจักรยาน รวมไปถึงการว่ายน้ำเลยครับ

วัสดุ / สายPolymer / Silicone
ขนาด / น้ำหนัก46 x 33.5 x 10.8 mm / 26 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.74” / 336 x 480 HD
กันน้ำ50 m
จุดเด่นFullView Display ขอบบางพิเศษ / มีแอนิเมชันฟิตเนสให้ออกกำลังตาม

10. HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro

มีลูก ต้องมี สมาร์ทวอช Huawei KIDS 4 Pro ด้วยหลากหลายฟีเจอร์ที่จะช่วยให้พ่อ-แม่อุ่นใจในยามที่เด็ก ๆ ต้องไกลจากสายตา ทั้ง AI ระบุตำแหน่ง 9 ระบบ เช็คพิกัดลูกรักอย่างแม่นยำได้ตลอดเวลา หรือจะเป็นการตั้งค่าพื้นที่ปลอดภัย เช่น ในโรงเรียน หากมีการออกนอกพื้นที่ พ่อ-แม่จะได้รับการแจ้งเตือนทันที อีกทั้งยังมีปุ่ม SOS ให้เด็ก ๆ ติดต่อคุณได้ พร้อมบันทึกสถานที่รอบ ๆ โดยอัตโนมัติ ช่วยคลายกังวลไปได้เยอะเลยจริงไหมครับ

ให้เด็ก ๆ สามารถโทรออกและรับสายผ่านนาฬิกาได้เลย รวมไปถึงวิดีโอคอลคมชัดระดับ HD ด้วย และหากบ้านไหนชอบไปเที่ยว ไปผจญภัย ชอบไปต่างประเทศ ฟีเจอร์เหล่านี้ก็ยังสามารถใช้ได้ รองรับการโรมมิ่งไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดในโลกใบนี้ และให้ลูก ๆ เพิ่มเพื่อนใหม่ ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงสั่นข้อมือใกล้กับเพื่อนที่ใช้รุ่นนี้เหมือนกันก็เป็นอันเรียบร้อย มาถึงตรงนี้ก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าถ้ามีสมาร์ทวอชเรือนนี้สมาร์ทโฟนก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่เด็ก ๆ สมัยนี้ก็คงอยากมีไว้ถ่ายรูปใช่ไหมล่ะ ดังนั้น สมาร์ทวอช Huawei KIDS 4 Pro จึงมาพร้อมกล้องเซลฟี่มุมกว้าง 85 องศา บนหน้าจอ ทีนี้เจ้าตัวเล็กก็หมดเรื่องงอแงอ้อนขอสมาร์ทโฟนแล้วล่ะครับ

วัสดุ / สายPlastic / Silica Gel
ขนาด / น้ำหนัก52 x 41 x 14.5 mm / 57.5 g
หน้าจอสัมผัส/แสดงผลสี✓ / ✓
ประเภทหน้าจอAMOLED
ขนาด / ความละเอียดหน้าจอ1.41” / 320 x 360 pixel
กันน้ำ50 m
จุดเด่นAI ระบุตำแหน่ง, ปุ่ม SOS, มีกล้องเซลฟี่

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ “สมาร์ทวอช Huawei” รุ่นไหนน่าใช้ ที่เราได้รวบรวมมา ถึง 10 รุ่น นอกจากจะมีดีไซน์ที่สวย คลาสสิคแล้ว แบตก็อึดได้ใจมากๆ การันตีเลยว่าแบตของ สมาร์ทวอช Huawei เนี๊ย !!! ทุกรุ่นสแตนด์บายอยู่ได้เกิน 7 วันแน่นอน โหมดออกกำลังกายก็มีให้มาแบบครบครันหายห่วงถึงแม้จะเป็นตัวเริ่มต้นก็ตาม แล้วใครที่ไม่ค่อยชอบพกมือถือตอนไปออกกำลังกาย หรือลืมมือถือบ่อยๆ แนะนำว่าถ้าไม่ซีเรียสเรื่องราคา จัดตัว e-sims ไปเลยครับ สะดวกมากๆ รวมถึงถ้าจะซื้อให้ลูกๆ เราก็มี Huawei KIDS มาให้อีกด้วย ถ้าหากว่าได้รุ่นที่ถูกใจแล้ว ก็กดลิงค์ ไปตำรัวๆ กันเล้ยยยย


0 0 votes
Article Rating
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments