เครื่องดูดฝุ่นในรถ ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ เครื่องดูดฝุ่นในรถ ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ

เครื่องดูดฝุ่นในรถ หรือเครื่องดูดฝุ่นพกพา เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่คนมีรถต้องถามหาเป็นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ ช่วยให้การทำความสะอาดรถ เบาะที่นั่ง หรือตามซอกต่าง ๆ อย่างมุมห้องนั้นสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยขนาดเล็ก น้ำหนักเบาทำให้ถือสะดวก แถมยังมีแบตเตอรี่ในตัว จะขยับไปทางไหนก็ไม่มีปัญหา น่าซื้อแบบนี้ แล้วเราจะเลือกซื้อ เครื่องดูดฝุ่นในรถ ยี่ห้อไหนดี เราจะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องดูดฝุ่นในรถหลายรุ่น พร้อมวิธีการเลือกซื้อแบบง่าย ๆ และควรสังเกตอะไรก่อนซื้อกันครับ



วิธีการเลือก เครื่องดูดฝุ่นในรถ

วิธีการเลือก เครื่องดูดฝุ่นในรถ

ความแรงของการดูดฝุ่น ค่าวัตต์ (Watt) เป็นค่าบ่งบอกการใช้พลังงานของมอเตอร์ ยิ่งสูงก็ยิ่งมีแรงดูดสูง แต่การกินไฟก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ในระยะหลังหลายยี่ห้อเริ่มเปลี่ยนมาใช้หน่วยสำหรับแรงดูดอย่าง ปาสคาล (Pascal หรือ Pa) ซึ่งค่าของแรงดูด 4000 Pa หรือ 4kPa ขึ้นไป ก็เพียงพอสำหรับการดูดฝุ่นทั่วไปแล้ว แต่ถ้าใครอยากได้เครื่องที่กำลังแรงกว่า ก็มีหลายรุ่นให้เลือกซื้อกันครับ

ไร้สาย และชาร์จ USB เดี๋ยวนี้อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นไร้สาย ออกแบบให้ชาร์จกับ USB หรือ USB-C (เจอในหัวชาร์จมือถือ Android รุ่นใหม่) ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้หัวชาร์จมือถือและพาวเวอร์แบงค์ เพื่อทำการชาร์จเครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สายได้เลย ตัวเครื่องส่วนใหญ่ยังมีน้ำหนักเบา จะหยิบไปดูดฝุ่นที่อยู่สูงก็สะดวกดีจริง ๆ

มีสาย ใช้ที่จุดบุหรี่ / ไฟบ้าน แบบมีสายไฟที่ต่อกับช่องจุดบุหรี่ อาจจะต้องสตาร์ทรถให้จ่ายไฟเพื่อทำการดูดฝุ่น ทำให้ไม่สะดวกเท่ากับแบบไร้สาย แต่ไม่ต้องกังวลกับเรื่องแบตเตอรี่หมด และได้ความจุถ้วยเก็บฝุ่นที่มากขึ้น ส่วนแบบที่ใช้กับปลั๊กไฟบ้านจะมีข้อดีตรงไม่ต้องระวังเรื่องแบตเตอรี่ ความจุถ้วยเก็บฝุ่นก็เยอะ ที่สำคัญใช้โหมดแรงดูดสูงได้ตลอดเวลา แต่ก็แลกกับการไม่มีแบตเตอรี่และมีสายไฟให้รำคาญได้ครับ

Car Vacuum Cleaner Cover1

ความจุแบตเตอรี่ ถ้าต้องการใช้ดูดเป็นบริเวณกว้าง หรือชอบดูดหลายรอบเพื่อความสะอาดแล้วละก็ แนะนำให้เลือกรุ่นที่แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ด้วยไม่งั้นแบตหมดไวแน่ ๆ จะเสียอารมณ์เอา แล้วถ้าเราเปิดโหมดแรงดูดสูง แบตเตอรี่ก็ลดฮวบ ๆ กันเลยทีเดียว แล้วตัวแบตเตอรี่เองก็มีอายุการใช้งาน 1-2 ปี หลังจากนั้นก็จะเริ่มเสื่อมเก็บไฟได้น้อยลง ดังนั้นแบตใหญ่ไว้ก่อนดีแน่นอนครับ

ความจุถ้วยเก็บฝุ่น ถ้าคุณมีโครงการจะเอาไปดูดทำความสะอาดภายในบ้าน สถานที่มีบริเวณกว้าง หรือสกปรกมากเป็นพิเศษ อาจจะต้องลองดูรุ่นที่มีความจุถ้วยเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ด้วย จะได้ไม่รำคาญ ดูดได้แป๊บเดียวถ้วยเก็บฝุ่นก็เต็ม ทำให้ต้องเสียเวลามาทิ้งฝุ่นหรือเศษขยะก่อน ที่จะดูดทำความสะอาดต่อไปครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “เครื่องดูดฝุ่นในรถ” ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "เครื่องดูดฝุ่นในรถ" ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเครื่องดูดฝุ่นในรถ แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, แรงดูด, กำลังไฟ, เสียงรบกวน, แบตเตอรี่ และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ



1. 70mai Car PV01

สะดุดตาด้วยดีไซน์เรียบหรูดูเท่สีดำด้านสวยงาม สำหรับเครื่องดูดฝุ่นในรถ 70mai PV01 แบรนด์จากประเทศจีนที่มีมาตรฐานและคุณภาพเชื่อถือได้ น้ำหนักเบาแค่ 7 ขีด ขนาดกะทัดรัดหยิบจับสะดวก ทำให้สามารถหาพื้นที่จัดเก็บในรถได้ง่าย มีหัวดูดให้ 2 แบบ คือแบบแบนปกติ และแบบแปรงที่ช่วยทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น แรงดูด 5,000 PA ดูดเศษฝุ่น ขนเจ้าตัวยุ่ง และสิ่งสกปรกชิ้นเล็ก ๆ พวกเศษขนมเศษอาหารได้ดี และดูดได้ถึงระดับไรฝุ่นเลยทีเดียว ความจุที่เก็บฝุ่นอยู่ที่ 100 มิลลิลิตรครับ

ส่วนของกำลังไฟใช้เพียง 80 วัตต์ ชาร์จไฟด้วยสาย USB Type C สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 24 นาที ซึ่งมากกว่าเครื่องดูดฝุ่นในรถทั่วไปที่มักใช้งานได้น้อยกว่า 20 นาที ใช้ไส้กรองชนิด HEPA11 ที่เป็นไส้กรองคุณภาพสูง สามารถดักจับฝุ่นอนุภาคเล็กถึง 0.3 ไมครอน กำจัดฝุ่นได้ถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีเสียงรบกวนน้อยเพียง 65 เดซิเบล ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดี พกพาสะดวก และคุณสมบัติต่าง ๆ แล้ว ราคาก็ไม่แพง ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียวครับ

แรงดูด5,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่น100 ml
ความจุแบตเตอรี่4,000 mAh
กำลังไฟ80 W
ขนาด31.2 x 7.3 CM
น้ำหนัก700 g
เสียงรบกวน65 dB
เวลาใช้งาน24 min
การชาร์จ / เวลาชาร์จUSB Type C / N/A
ไส้กรองHEPA
สีBlack

2. HAFELE Cordless Car Vacuum Cleaner

ดูภายนอกแล้ว เจ้าเครื่องดูดฝุ่นในรถ HAFELE Cordless Car Vacuum Cleaner ตัวนี้ ก็หน้าตาละม้ายคล้าย ๆ รุ่นบน ในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สวยงาม มี 2 สีให้เลือก ขาวและดำ ขนาดกะทัดรัดประมาณไม้บรรทัดนึงเท่านั้น ระดับแรงดูดสูงสุดที่ 5,000 PA ซึ่งเป็นระดับที่สามารถดูดไรฝุ่นได้ นอกจากหัวดูดปกติแล้ว ก็มีหัวแปรงเพิ่มมาให้สำหรับการใช้ปัดหรือดูดตามซอก มีไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่เพื่อดูว่าเหลือมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งมีไฟ LED ส่องสว่างเมื่อเปิดใช้งานครับ

ตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่ความจุ 20,000 มิลลิแอมแปร์ให้มาค่อนข้างเยอะ ใช้เวลาในการชาร์จต่อครั้งประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องที่ประมาณ 12 นาที ตัวชาร์จมีทั้งแบบหัวเสียบที่จุดบุหรี่ในรถ และปลั๊กสำหรับเสียบไฟบ้าน ระดับเสียงรบกวนน้อยกว่า 75 เดซิเบล ก็ถือว่าไม่ดังจนเกินไป ดูรีวิวส่วนใหญ่ใช้แล้วไม่มีปัญหาอะไร แรงดูดดี สินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน ใช้งานง่าย เทียบราคาแล้วก็เรียกว่าคุ้มค่า แบรนด์ดังจากเยอร์มันไว้ใจได้ครับ

แรงดูด5,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่นN/A
ความจุแบตเตอรี่20,000 mAh
กำลังไฟ80 W
ขนาด30 x 7 CM
น้ำหนักN/A
เสียงรบกวน≤ 75 dB
เวลาใช้งาน12 min
การชาร์จ / เวลาชาร์จที่จุดบุหรี่, ปลั๊กไฟบ้าน / 1 – 2 ชม. (ไฟบ้าน)
ไส้กรองN/A
สีBlack / White

3. Mi Vacuum Cleaner Mini

เห็นขนาดรูปร่างแล้วอย่าหยิบผิดไปเปิดฝาใส่น้ำเชียว สำหรับ Mi Vacuum Cleaner Mini เครื่องดูดฝุ่นในรถที่กะทัดรัดไม่ต่างจากกระบอกน้ำขนาดเหมาะมือ สีขาวเรียบเนียนสวยสไตล์มินิมอล มาพร้อมท่อต่อและหัวแปรงเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย แรงดูด 13,000 PA ดูดแรงใช้ได้เมื่อเทียบกับขนาดตัว ความจุที่เก็บฝุ่นอยู่ที่ 100 มิลลิลิตร เป็นพลาสติกใสมองเห็นชัดเจนว่าดูดอะไรไปมากน้อยเท่าไหร่ น้ำหนักเพียง 500 กรัมเบากว่าขวดน้ำเสียอีกครับ

ฟังก์ชันใช้งานสามารถเลือกระดับความแรงได้ 2 แบบ คือปกติและแบบแรงดูดสูง ซึ่งหากใช้งานแบบปกติจะใช้ได้ต่อเนื่อง 30 นาที แต่ถ้าใช้โหมดแรงดูดสูงจะใช้ได้ประมาณ 9 นาที การชาร์จใช้สาย USB Type C จะเสียบไฟบ้าน หรือต่อกับ Power Bank ก็สะดวก ไส้กรองเป็นชนิด HEPA ที่กรองฝุ่นละเอียดได้มากถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมีเสียงรบกวนเพียง 72 เดซิเบล ราคาก็ไม่แพงเลย เรียกว่าตัวจิ๋วแต่แรงเยอะ ดูดฝุ่นดี รีวิวส่วนใหญ่โอเคมาก ๆ ครับ

แรงดูด13,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่น100 ml
ความจุแบตเตอรี่2,000 mAh
กำลังไฟ120 W
ขนาด26.7 x 5.5 x 5 CM
น้ำหนัก500 g
เสียงรบกวน72 dB
เวลาใช้งาน30 min
การชาร์จ / เวลาชาร์จUSB Type C / N/A
ไส้กรองHEPA
สีWhite


4. Airbot Portable Handheld Vacuum Cordless

สำหรับใครที่ชอบดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำ ๆ แนะนำตัวนี้เลย Airbot Portable Handheld Vacuum Cordless นอกจากขนาดจะน่ารักแล้ว ราคายังน่าคบมาก ๆ รูปทรงและไซส์ใกล้เคียงร่มพับ 3 ตอน พกพาใส่กระเป๋าติดตัวได้ประมาณนั้นเลย ดีไซน์ล้ำสมัยสีเทาตัดกับเส้นสีแดงดูไฮเทค มาพร้อมหัวแปรงและท่อต่อปากแบนสำหรับใช้งานดูดตามซอกมุมได้สะดวก รวมทั้งยังมีแท่นวางเพื่อการจัดเก็บที่เป็นระเบียบสวยงามด้วยครับ

ไส้กรองเป็นชนิด HEPA13 ฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง ที่กรองฝุ่นอนุภาคเล็กขนาด 0.1 ไมครอนได้มากถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ และยังสามารถถอดชิ้นส่วนล้างทำความสะอาดได้ง่าย ตัวที่เก็บฝุ่นเปิดออกง่ายด้วยการกดปุ่มสวิตช์ครั้งเดียว ป้องกันฝุ่นเลอะเปื้อนมือได้ดีเลย รีวิวจากคนที่เคยใช้ส่วนใหญ่ก็พอใจ แรงดูดกำลังดี ใช้งานโอเคไม่มีปัญหา ราคาประหยัดแถมฟังก์ชันยังครบขนาดนี้ มีไว้ใช้สักตัวก็ไม่เสียดายเงินนะครับ

แรงดูด12,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่นN/A
ความจุแบตเตอรี่N/A
กำลังไฟN/A
ขนาดN/A
น้ำหนัก520 g
เสียงรบกวนN/A
เวลาใช้งานN/A
การชาร์จ / เวลาชาร์จปลั๊กไฟบ้านแบบมีสาย
ไส้กรองHEPA
สีGrey

5. Baseus CRXCQA3-0A

ที่เห็นรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายกระบอกไฟฉายนี้ เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถ Baseus CRXCQA3-0A ดีไซน์เรียบหรูทรงกระบอกโค้งมน มีสีดำและสีเงินให้เลือก ขนาดกะทัดรัดพกพาง่าย มีท่อต่อและหัวแปรงมาให้ ใช้สายชาร์จแบบ USB Type C แรงดูดสูงถึง 15,000 PA และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่าเครื่องพกพารุ่นอื่น ๆ เพราะนานถึง 45 นาที โดยสามารถปรับแรงดูดได้ 2 ระดับ หากใช้แรงดูดสูงก็ยังใช้งานได้นาน 17 นาที และมีไฟสีฟ้าแสดงระดับแบตเตอรี่บนตัวเครื่องด้วยครับ

ส่วนที่บอกว่าคล้ายกระบอกไฟฉายก็ไม่ได้เกินจริงไปซะทีเดียว เพราะตัวเครื่องมีไฟส่องสว่างเอาไว้เปิดใช้ในจุดที่แสงไฟเข้าไม่ถึง ช่วยให้เรามองเห็นเศษฝุ่นผงตามซอกต่าง ๆ ได้ดี ใช้ฟิลเตอร์ HEPA คุณภาพสูง ช่วยกรองฝุ่นละเอียดขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้มากถึง 99.7 เปอร์เซ็นต์ สำหรับใครที่ไม่ค่อยถูกใจเครื่องดูดฝุ่นในรถ เพราะใช้งานได้ไม่กี่นาทีล่ะก็ รุ่นนี้ตอบโจทย์มาก ใช้ได้นานกว่ารุ่นอื่น ๆ ดูจากรีวิวแล้วถ้าไม่นับเรื่องที่เครื่องค่อนข้างหนักนิดหน่อย ที่เหลือก็ถือว่าดีงามเลย ราคาสมเหตุสมผล จัดไว้ติดรถสักเครื่องได้เลยครับ

แรงดูด15,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่น70 ml
ความจุแบตเตอรี่8,000 mAh
กำลังไฟ135 W
ขนาด29.6 x 5.65 x 5.65 CM
น้ำหนักN/A
เสียงรบกวน< 75 dB
เวลาใช้งาน45 min
การชาร์จ / เวลาชาร์จUSB Type C / N/A
ไส้กรองHEPA
สีBlack / Silver

6. Shimono SVC-1020C

Shimono SVC-1020C เรียกว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถที่เราเห็นกันแบบมาตรฐานทั่วไป ใช้กำลังไฟจากการเสียบที่จุดบุหรี่ในรถ จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟหรือกังวลกับเวลาใช้งานที่มีจำกัดแบบเครื่องพกพารุ่นอื่น ๆ ตัวสายยาว 5 เมตร ยาวพอที่จะลากไปใช้ได้ถึงหลังรถ ความจุที่เก็บฝุ่น 500 มิลลิลิตร มาพร้อมอุปกรณ์เสริมจัดเต็ม ทั้งสายท่ออ่อนชนิดงอได้ หัวแปรงขนหมุนได้ 360 องศา และหัวปลายเรียวสำหรับดูดตามซอกเล็กครับ

แรงดูดของเครื่องอยู่ที่ 4,000 PA ถือว่าไม่แรงมากนัก แต่ก็ใช้กับการดูดฝุ่นในรถยนต์ได้ไม่มีปัญหา มีการใช้เทคโนโลยี Cyclone ช่วยป้องกันไม่ให้แผ่นกรองอุดตันก่อนเวลา ส่วนราคาค่อนข้างประหยัดพอสมควร ลูกค้าที่ได้ลองใช้ก็รีวิวการใช้งานไว้โอเค สินค้าได้คุณภาพตามมาตรฐาน อย่างที่บอกว่าแรงดูดไม่แรงแต่เข้าใจได้สำหรับการใช้ไฟรถ ใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องแรงดูด และไม่อยากพะวงกับเวลาใช้งานของแบตเตอรี่แบบรุ่นชาร์จไฟอื่น ๆ ตัวนี้ก็นับว่าตอบโจทย์ครับ

แรงดูด4,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่น500 ml
ความจุแบตเตอรี่
กำลังไฟ150 W
ขนาดN/A
น้ำหนัก1,260 g
เสียงรบกวนN/A
เวลาใช้งาน
การชาร์จ / เวลาชาร์จที่จุดบุหรี่แบบมีสาย
ไส้กรองN/A
สีBlack / White


7. AUTOBOT VacPro mini 2 

“แค่มีก็เท่ ดีไซน์ทันสมัย พกไปไหนก็ได้” เป็นคอนเซ็ปต์ของเจ้าเครื่องดูดในรถ AUTOBOT VacPro mini 2 ซึ่งดีไซน์เขามาอย่างเท่ ด้วยสีแดงสดที่บอกเลยว่ากระแทกตาตั้งแต่แรกเห็น ขนาดมินิพกใส่กระเป๋าไปไหนต่อไหนได้สบาย อยากจะดูดฝุ่นในรถ โต๊ะทำงาน มุมนั่งเล่น ก็สะดวกมาก ๆ แรงดูด 4,200 PA ไม่แรงมาก แต่ก็เพียงพอสำหรับการดูดฝุ่นผง เศษขยะ ขนน้องแมว หรือเส้นผมได้ดีไม่มีปัญหา ที่เก็บฝุ่นขนาด 100 มิลลิลิตร เทฝุ่นออกง่ายด้วยการกดปุ่มเปิดครั้งเดียวครับ

แบตเตอรี่ความจุ 2,000 มิลลิแอมแปร์ ใช้สายชาร์จ USB Type C ใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมง และใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 25 นาที ก็เรียกว่ามาตรฐานใกล้เคียงเครื่องพกพาทั่วไป ส่วนของไส้กรองเป็นชนิด HEPA ที่ช่วยกรองฝุ่นที่อนุภาคเล็กมาก ๆ ได้ดี ในชุดมีหัวต่อและหัวแบบแปรงมาให้ด้วย ถึงจะตัวเล็กแต่ว่าฟังก์ชันครบ ใครชอบความสดใสพกพาสะดวกก็จัดไปได้เลยครับ

แรงดูด4,200 PA
ความจุถ้วยฝุ่น100 ml
ความจุแบตเตอรี่2,000 mAh
กำลังไฟ60 W
ขนาด26.5 x 5.75 x 6.95 CM
น้ำหนัก485 g
เสียงรบกวนN/A
เวลาใช้งาน25 min
การชาร์จ / เวลาชาร์จUSB Type C / 2.5 – 3 ชม.
ไส้กรองHEPA
สีRed

8. BOSCH GAS12V-LI

พูดถึง BOSCH ก็ต้องนึกถึงคุณภาพและความแข็งแกร่งทนทาน อย่างเครื่องดูดฝุ่นในรถรุ่นนี้ GAS12V-LI แค่เห็นภายนอกก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแรง วัสดุอย่างดีไม่พังง่ายแน่นอน ตัวนี้มาพร้อมหัวดูดตามซอกอีก 1 ชิ้น และอย่างที่หลายคนพอจะรู้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าของแบรนด์นี้ เขาจะมีแบตเตอรี่เฉพาะที่ใช้ร่วมกันได้ ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้จะใช้แบตเตอรี่ 12 โวลต์เท่านั้น มีหลายความจุ (Ah) ให้เลือกซื้อ หากใครมีแบตของ BOSCH 12V ของอุปกรณ์อื่นอยู่แล้วก็สามารถใช้ร่วมกันได้เลย หรือจะซื้อแบตเพิ่มเพื่อเอาไว้เปลี่ยนเวลาแบตหมดก็สะดวกดีครับ

ส่วนของแรงดูด 4,500 PA ดูดเศษฝุ่น เศษขยะในรถได้สบาย ความจุที่เก็บฝุ่น 400 มิลลิลิตร เก็บได้เยอะพอสมควร ใช้งานต่อเนื่องได้ดี ดีไซน์อาจจะไม่ได้เน้นความสวยเก๋โดดเด่นเหมือนแบรนด์อื่น แต่เรื่องคุณภาพความทนของ BOSCH มั่นใจได้ ราคาค่อนข้างสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วย หากเทียบกับการใช้งานในระยะยาวอาจคุ้มค่ากว่าก็ได้ ตรงนี้ต้องลองตัดสินใจดูว่าสมเหตุสมผลกับการใช้งานของเราหรือเปล่าครับ

แรงดูด4,500 PA
ความจุถ้วยฝุ่น400 ml
ความจุแบตเตอรี่ซื้อเพิ่ม Bosch 12V มีหลายความจุ
กำลังไฟN/A
ขนาด27.3 x 17 CM
น้ำหนัก900 g
เสียงรบกวนN/A
เวลาใช้งาน15 – 30นาที
การชาร์จ / เวลาชาร์จN/A
ไส้กรองN/A
สีBlue+Black

9. Black & Decker PD1200AV-B1

ต้องบอกว่าหน้าตาแปลกสะดุดตาสะดุดใจมาก สำหรับ Black & Decker PD1200AV-B1 เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถซึ่งผลิตโดยแบรนด์เก่าแก่จากสหรัฐอเมริกาที่มีประวัติยาวนานมาก ๆ ดีไซน์รูปทรงสวยล้ำทันสมัย ซื้อใช้แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอน เสียบไฟกับที่จุดบุหรี่ในรถได้เลย ไม่ต้องห่วงว่าจะแบตหมด ไม่ต้องคอยชาร์จแบตด้วย มาพร้อมสายไฟยาว 5 เมตร ยาวพอสำหรับใช้ดูดฝุ่นรถได้รอบคัน ความจุที่เก็บฝุ่นก็มากถึง 560 มิลลิลิตรครับ

หัวดูดขนาดกำลังพอเหมาะ เข้าถึงซอกมุมต่าง ๆ ในรถได้ดี มีหัวดูดแบบยาว และหัวแปรง 2 in 1 ให้มาด้วย ตัวเครื่องอาจจะหนักกว่าบางรุ่น แต่ก็ไม่ถือว่าหนักมากจนเกินไป โดยรวมแล้วคุณสมบัติต่าง ๆ บวกกับดีไซน์ที่สวยแปลกตา และมาตรฐานของยี่ห้อที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ แถมราคาไม่แพงเลย ก็นับว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถอีกตัวที่น่าสนใจไม่น้อยครับ

แรงดูด12.5 Air Watts
ความจุถ้วยฝุ่น560 ml
ความจุแบตเตอรี่
กำลังไฟN/A
ขนาด16.5 x 14.5 x 15.5 CM
น้ำหนัก1,490 g
เสียงรบกวนN/A
เวลาใช้งาน
การชาร์จ / เวลาชาร์จที่จุดบุหรี่แบบมีสาย
ไส้กรองN/A
สีTitanium+Red

10. PerySmith XTREME Series XS1

มาดูเครื่องดูดฝุ่นในรถจากแบรนด์ของสหรัฐอเมริกาตัวนี้ PerySmith XTREME Series XS1 รูปลักษณ์ดีไซน์สวยงามทันสมัย ขนาดตัวกะทัดรัดแต่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมจัดเต็มถึง 5 ชิ้น เป็นเหล่าบรรดาหัวดูดและท่อต่อต่าง ๆ เรียกว่าจะดูดตามซอก เป่าเศษฝุ่น ปัดเศษขยะ ก็จัดการได้หมด เป็นเครื่องแบบ 2 in 1 คือทั้งดูดฝุ่นและเป่าลม (Blower) ได้ด้วย แรงดูด 8,000 PA ถือว่าแรงใช้ได้ ตัวเครื่องทำจากวัสดุเฉพาะ (BUNA®) ที่มีความยืดหยุ่นทนทานและน้ำหนักเบาครับ

การชาร์จไฟใช้สายชาร์จ USB Type C แบตเตอรี่ความจุ 2,000 มิลลิแอมแปร์ และใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ใช้งานได้ต่อเนื่องที่ 15 นาที ไส้กรองเป็นชนิด HEPA กรองฝุ่นได้ละเอียดมากถึง 0.25 ไมครอน และยังมีระบบป้องกันความร้อนสูงผิดปกติด้วย ลูกค้าหลายคนที่ได้ใช้ส่วนใหญ่ถูกใจที่มีอุปกรณ์เสริมให้เยอะ ช่วยให้ดูดฝุ่นได้สะดวกและสะอาดมากขึ้น เรียกว่าราคาดีงาม ฟังก์ชันก็ดีต่อใจ เหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์มาก ๆ ครับ

แรงดูด8,000 PA
ความจุถ้วยฝุ่น100 ml
ความจุแบตเตอรี่2,000 mAh
กำลังไฟ120 W
ขนาด36 x 19 x 9 CM
น้ำหนัก780 g
เสียงรบกวนN/A
เวลาใช้งาน15 min
การชาร์จ / เวลาชาร์จUSB Type C / 3.5 ชม.
ไส้กรองHEPA
สีGrey

อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ เครื่องดูดฝุ่นในรถ ยี่ห้อไหนดี กันแล้วแน่เลย เวลาซื้อก็อย่าลืมคิดถึงการใช้งานของเราให้ดี ถ้าต้องการเครื่องแรง ดูดได้เยอะ ใช้งานเป็นบริเวณกว้าง เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายต่อกับไฟบ้านน่าจะสะดวกลงตัวกว่า แต่ถ้าเน้นใช้งานบริเวณเล็ก ๆ ในรถ แบบไร้สายก็สะดวกดี แถมยังชาร์จด้วยหัว USB หรือ Power Bank ของมือถือได้อีกด้วย สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้เครื่องดูดฝุ่นในรถที่ถูกใจ ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหากันนะครับ


Leave a Comment