เรตินอล ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ ยอดนิยม

เรตินอล ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ ยอดนิยม

เริ่มมีปัญหาสภาพผิวหน้า ริ้วรอยเริ่มเยอะ ตีนกามา และดูแก่ก่อนวัย รับสภาพไม่ไหว จนอยากจะหาซื้อสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล !! เพื่อมาจัดการกับริ้วรอยเหล่านี้ แต่พอจะไปซื้อ ก็ไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี เพราะมีให้เลือกกันเยอะมากกก และส่วนใหญ่ราคาจะค่อนข้างสูงกันด้วย ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมสกินแคร์เรตินอลที่น่าสนใจ มียอดขายสูง รีวิวจากผู้ใช้จริงดีงาม มาแนะนำให้รู้จักกันถึง 10 ตัว 10 ยี่ห้อกันเลยทีเดียว ก็จะมียี่ห้อไหนที่จะตอบโจทย์กับสภาพผิวเรากันบ้างนั้น ก็ตามมาเลยค่า



แนะนำ 10 เรตินอล ที่ขายดีในออนไลน์


1. THE SHOTT Active Retinol 0.2 Renewal Serum-Skincare

The Shott เพียวเรตินอล 0.2% เป็นผลิตภัณฑ์เรตินอลแบบริสุทธิ์ 0.2% มีจุดเด่นคือเทคโนโลยีห่อหุ้ม 2 ชั้น (Double-Layered Encapsulation) ซึ่งจะค่อยๆปลดปล่อยเรตินอลบริสุทธิ์ออกมา ทำให้คงประสิทธิภาพของเรตินอลให้สามารถทำงานได้ดีและยาวนานขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการระคายเคืองจากเรตินอลได้ดี มีการผลิตที่อุณหภูมิต่ำ ช่วยให้เรตินอลคงอยู่ได้ยาวนานในสภาวะการใช้งานปกติ เรตินอลที่มีความเข้มข้นเหมาะสมและคุณภาพสูงจะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน และ Glycosaminoglycan ส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้น หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ผิวกระจก” สุดฮิตนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอย่างไนอะซินาไมด์ 5% ที่จะมาช่วยให้ผิวดูสดใส ลดเลือนจุดด่างดำ เพิ่มเติมด้วยเซราไมด์คอมเพล็กซ์ 5 ชนิด และ “ซาคราน” (Sacran) สารสกัดจากสาหร่ายซุยเชนจิ ช่วยลดการระคายเคือง สร้างเสริมเกราะปราการปกป้องผิว นอกจากนั้นยังช่วยโอบอุ้มและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย

จุดเด่น

  • Double-Layered Encapsulation ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการระคายเคือง
  • Niacinamide 5% ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ
  • Ceramides 5 ชนิด เสริมเกราะป้องกันผิว
  • Sacran สาหร่ายซุยเซนจิ รักษาความชุ่มชื้น เสริมปราการผิว
  • เทคโนโลยีพิเศษ ช่วยคงประสิทธิภาพเรตินอลยาวนาน เมื่อเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น

ข้อที่ควรสังเกต

  • สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ไม่เคยใช้เรตินอล หรือมีผิวบอบบางแพ้งาย ควรเริ่มใช้ สัปดาห์ละ 2 ครั้งในสัปดาห์แรก วันเว้นวันในสัปดาห์ที่ 2 และใช้ได้ทุกคืนในสัปดาห์ที่ 3 เมื่อผิวคุ้นชินกับเรตินอลในระดับหนึ่งแล้ว

2. Olay Retinol24 Night Serum

เซรั่มกลางคืนที่จะช่วยดูแลผิวหน้าในยามหลับได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมเทคโนโลยี Bioavailable Retinoid ที่จะช่วยให้เนื้อเซรั่มและเรตินอลซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว และมีคุณสมบัติช่วยเร่งการผลัดสีผิวกับลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ร่องลึกก็ดูตื้นกระชับขึ้น ทั้งยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใสด้วยคุณค่าของวิตามิน B3 ให้สีผิวดูสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ นอกจากนี้เขายังส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นสมดุลของคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ให้ผิวมีความยืดหยุ่นแข็งแรง แถมยังเหมาะกับผิวแพ้ง่ายอีกด้วยค่า

จุดเด่น

  • เทคโนโลยี Bioavailable Retinoid ช่วยให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว
  • มีวิตามิน B3 ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้เรียบเนียนกระจ่าง
  • ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
  • เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
  • ยอดขายสูงเช่นกัน

ข้อที่ควรสังเกต

  • อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีผิวมัน

3. No7 Pure Retinol 0.3% Retinol Night Concentrate Serum

No7 Pure Retinol 0.3% Retinol Night Concentrate เป็นเรตินอลที่ใช้แล้วเห็นผลได้จริง ๆ จนหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน เคยใช้มาหลายยี่ห้อรู้สึกว่าไม่ได้ผล มาลองตัวนี้รู้สึกได้แน่นอน ใครที่ทาตัวนี้แล้วเกิดอาการคัน หน้าลอก แนะนำมอยส์เจอร์ไรเซอร์และกันแดดที่ทาแล้วไม่แสบผิวมาใช้คู่กัน (ถ้าทาแล้วแสบให้ล้างออกแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อเปลี่ยนสูตรมอยส์เจอร์ไรเซอร์และกันแดดนะ ยิ่งสูตรสิวบอกเลยหนีไป แสบหน้าทั้งนั้น) ใครที่หน้าบอบบางมาก ๆ หรือใช้สกินแคร์อื่น ๆ ร่วมด้วยแล้ว เจออาการแสบคันเป็นพิเศษ แนะนำ Retinol ที่อยู่ในรูปอื่น ๆ อย่างพวก Pro Retinol / HPR แทนจะดีกว่านะคะ

No7 จะเป็น Pure Retinol ความเข้มข้น 0.3% มาพร้อมเปปไทด์ MATRIXYL 3000 PLUS ที่จะมาเพิ่มพลังช่วยกันลดเลือนริ้วรอย เร่งการผลัดเซลล์ผิว สร้างผิวใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์ผิวดูเรียบเนียน สีผิวดูสม่ำเสมอ พร้อมกับช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง มี Retinol Optimiser 1% ทำหน้าที่พาเรตินอลเข้าสู่ชั้นผิวอย่างช้า ๆ เสริมการทำงานเรตินอลให้ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน แถมด้วย Retinol Soother 0.2 % ช่วยลดการระคายเคืองผิว ไม่มีน้ำหอม พาราเบน แนะนำให้ใช้คู่กับ No7 Pure Retinol Night Repair Cream 50ML ที่เป็นครีมกระปุก ช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

จุดเด่น

  • Pure Retinol ความเข้มข้น 0.3% เห็นผลได้จริง
  • เปปไทด์ MATRIXYL 3000 PLUS เพิ่มพลังเรตินอลช่วยกันลดเลือนริ้วรอย
  • ไม่มีน้ำหอม พาราเบน ผ่านการทดสอบทางคลินิก

ข้อที่ควรสังเกต

  • อาจจะเจออาการระคายเคือง


4. MizuMi Advance Retinoic Ester Serum

ใครที่หน้าแพ้บ่อย ใช้อะไรก็มีปัญหา แนะนำให้มาลอง MizuMi Advance Retinoic Ester Serum เนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่มีกลิ่น ด้วยจุดเด่นของ HPR Complex Solution 2% ที่เป็นอนุพันธ์วิตามินรุ่นใหม่ สามารถออกฤทธิ์ได้ทันที มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ในขณะเดียวกันก็ยังอ่อนโยนต่อใบหน้าของเรา ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมือนครีมหรือเซรั่มเรตินอลบริสุทธิ์ เพิ่มเติมเปปไทด์มาเพิ่มพลังในการลดเลือนริ้วรอย เติมความกระชับ ให้ผิวดูเรียบเนียน พร้อมสารสกัดจากข้าวโอ๊ตช่วยให้ผิวดูเฟิร์มขึ้น เรียบเนียนไปพร้อมกัน

ใครที่กำลังตามหามอยส์เจอร์ไรเซอร์มาและกันแดดมาช่วยดูแลผิวเพิ่ม ก็แนะนำ MizuMi SKIN BARRIER SOOTHING CREAM กับ MizuMi UV Water Defense ไปใช้ร่วมกัน จากประสบการณ์ส่วนตัว บอกได้เลยหน้าแสบจาก Pure Retinol 1% มาทา Mizumi มอยส์เจอรไรเซอร์กับกันแดด 2 ตัวนี้แทบจะไม่แสบผิวเลยค่ะ

จุดเด่น

  • HPR 2% เรตินอลรุ่นใหม่ ไม่เกิดการระเคืองเหมือนเรตินอลบริสุทธิ์
  • เปปไทด์ 1% เสริมการทำงานเรตินอล

ข้อที่ควรสังเกต

  • เห็นผลช้ากว่าเรตินอล

5. CERAVE Resurfacing Retinol Serum

เรตินอลเซรั่มจากเซราวี เป็นเรตินอลบริสุทธิ์ความเข้มข้น 0.1% ที่ทำมาเพื่อผู้เริ่มใช้เรตินอลโดยเฉพาะ เติม เซราไมด์ ไนอาซินาไมด์ ลิโคริช มาช่วยดูแลผิว เสริมปราการเกาะป้องกันให้แข็งแรง ลดปัญหาแห้งกร้าน ปลอบประโลมผิวแบบสุด ๆ แล้วยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยดำจากสิว ด้วยส่วนผสมที่เน้นดูแลหน้าเป็นหลัก เลยทำให้ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เริ่มหัดใช้เรตินอลเอามาก ๆ ใครที่มีผิวหน้าบอบบางแนะนำให้ลอง Cerave ก่อนยี่ห้ออื่น ๆ นะคะ

จุดเด่น

  • เรตินอล สุดฮิตของมือใหม่ เหมาะกับทุกสภาพผิว และมีสิว
  • มี เซราไมด์ ไนอาซินาไมด์ ลิโคริช ให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งตึง เรียบเนียน
  • ไม่มีน้ำหอม พาราเบน ผ่านการทดสอบผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

ข้อที่ควรสังเกต

  • ความเข้มข้นเรตินอลน้อย

6. Dr.PONG RETINAL-X TIMELESS ANTI-AGING SERUM

เอาใจคนผิวเป็นสิวและบอบบางแพ้ง่าย ด้วยผลิตภัณฑ์จาก Dr.PONG ที่นำเสนอมาในรูปแบบเซรั่มบำรุงผิวหน้า พร้อมด้วยส่วนผสมจาก Retinal 0.04 % ที่ผสานด้วยคุณค่าจาก Xanthophylls ที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอย ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังมีสารสกัดจาก Niacinamide 3% และ Glycine Soja Seed Extract ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใส กระชับฉ่ำน้ำ แถมยังมีส่วนผสมเป็น Allantoin ที่จะช่วยปกป้องผิวจากอาการระคายเคืองอีกด้วยค่ะ

จุดเด่น

  • เซรั่มเรตินอล 0.04 % เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย
  • มี Xanthophylls ที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  • มีสารสกัดจาก Niacinamide 3% และ Glycine Soja Seed Extract ช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส
  • มี Allantoin ที่จะช่วยปกป้องผิวจากอาการระคายเคือง

ข้อที่ควรสังเกต

  • ควรใช้เป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง จึงจะเห็นผล


7. INGU Green Tea Retinol Repair Shot

เรตินอลจากบล๊อกเกอร์ดัง สายวิทยาศาสตร์ต้องยกให้กับ INGU Green Tea Retinol Repair Shot ที่เค้าเคลมว่าใช้ ReVitAilde 3% เป็นเรตินอลที่ผ่านการห่อหุ้มแบบแคปซูล ช่วยให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างอ่อนโยน ลดอาการระคายเคืองบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี มี Matrixyl Synthe'6 MBAL 2% เสริมพลังในการลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ร่องลึกดูจางลง ถือว่าเป็นแบรนด์ไทยที่ไม่ธรรมดาเลย แค่ยอดขายก็การันตีคุณภาพแล้ว จากที่ลองใช้มาจนหมดขวด มีอาการแสบหน้าเล็กน้อย เห็นผลเลยทีเดียว คุณภาพดีสู้กับแบรนด์ดังอย่าง Cerave Laroche No.7 ได้เลยค่ะ

จุดเด่น

  • เรตินอลเข้มข้นในรูปแบบ encapsulated อ่อนโยนต่อผิว เพิ่มประสิทธิภาพลดเลือนริ้วรอยด้วยเปปไทด์
  • ยอดใบชาเขียว ต้านอนุมูลอิสระ ดอกไมราบิส ลดการระคายเคือง AquaxyITM ช่วยสร้าง Hyaluron กระตุ้น Ceramide

ข้อที่ควรสังเกต

  • ความเข้มข้นสูง ไม่แนะนำให้ทารอบดวงตา อาจจะทำให้ผิวรอบดวงตาแสบแดงได้ เนื่องจากเรตินอลค่อนข้างสูง

8. Vichy Liftactiv Specialist Retinol Serum

เซรั่มจากแบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศส ที่ผสานเอาพลังที่สุดแห่งโมเลกุลทางการแพทย์อย่าง เรตินอลบริสุทธิ์ ที่จะเข้าจัดการปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้อย่างอยู่หมัด ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับอ่อนเยาว์ พร้อมปลอบประโลมผิวด้วยโพรไบโอติก แฟรคชั่นส์ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียน ดูสุขภาพดี แถมยังให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่สาวผิวแพ้ง่ายน่าจะชอบก็คือ เค้าปราศจากน้ำหอม, สารให้สี และซิลิโคน ผ่านการทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังแล้วเรียบร้อย ก็ไม่ว่าสภาพผิวแบบไหนก็ใช้ได้จ้า

จุดเด่น

  • ปลอบประโลมผิวด้วยโพรไบโอติก แฟรคชั่นส์
  • ให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • ผ่านการทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังแล้ว
  • เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

ข้อที่ควรสังเกต


9. Kiehls Retinol Skin-Renewing Daily Micro-Dose Serum

เซรั่มที่ให้ความรู้สึกเบาสบายผิวจากแบรนด์ Kiehls มาพร้อมเทคโนโลยีสุดพิเศษอย่าง Micro – Dose และเรตินอลบริสุทธิ์ ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้มีความกระจ่างใสสม่ำเสมอ อีกทั้งยังลดเลือนริ้วรอยและอาการระคายเคือง เผยผิวใหม่ที่ดูกระชับ อ่อนเยาว์ พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงด้วยเปปไทด์และปลอบประโลมผิวด้วย Ceramide ที่จะช่วยลดความรู้สึกระคายเคืองหลังใช้เรตินอล ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้เป็นผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ไม่หวั่นค่ะ

จุดเด่น

  • เทคโนโลยีสุดพิเศษอย่าง Micro – Dose และเรตินอลบริสุทธิ์ ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้มีความกระจ่างใสสม่ำเสมอ
  • มีเปปไทด์ (Peptide) ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • ปลอบประโลมผิวด้วย Ceramide ที่จะช่วยลดความรู้สึกระคายเคืองหลังใช้เรตินอล
  • เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย

ข้อที่ควรสังเกต

  • เป็นสินค้าขนาดทดลอง อาจไม่ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการใช้งานในระยะยาว

10. Neutrogena Visible Repair Regenerating Cream

เพียวเรตินอลพร้อมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวดังจากอเมริกา ที่มีความอ่อนโยน ผ่านการ encapsulated ช่วยให้การออกฤทธิ์ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ลดการระคายเคืองผิว แถมด้วยส่วนผสมอื่น ๆ ที่มีความสามารถในการต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแสบแดงจากการใช้เรตินอล แนะนำให้ใช้คู่กับ Neutrogena Visible Repair Serum โดยเริ่มทา Serum ในขั้นตอนแรก แล้วต่อด้วย Regenerating Cream ตัวนี้ ทาเฉพาะเวลากลางคืน โดยเริ่มต้นที่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในช่วง 3 สัปดาห์แรก ถ้าไม่มีปัญหาค่อยเปลี่ยนมาทาทุกวัน

จุดเด่น

  • Encapsulated Retinal มีความอ่อนโยนสูง
  • มี Comfort Complex ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคือง

ข้อที่ควรสังเกต

  • ควรใช้ร่วมกับ Neutrogena Visible Repair Serum เพื่อให้เห็นผลสูงสุด

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่กำลังตามหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลเป็นหลัก เพื่อมาใช้ลดเลื่อยริ้วรอย ปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนกันมากขึ้น ก็จากที่เห็น ๆ รีวิวไป 10 ยี่ห้อกันเนี่ย ไม่แน่ใจว่าสนใจ อยากจะซื้อตัวไหน ยี่ห้อไหน ไปใช้งานกันบ้างคะ ?? บางยี่ห้อก็ราคาค่อนข้างแรง แต่ส่วนผสมก็จัดเต็ม หรือบางยี่ห้อก็ราคาถูกกว่า แต่ก็อาจจะใช้แล้วเห็นผลได้น้อยกว่า ยังไงตอนเลือกซื้อก็อย่าลืมดูความต้องการ, งบประมาณ และสภาพผิวหน้าที่มี เพื่อจะได้ซื้อยี่ห้อที่ตอบโจทย์กับผิวหน้าตัวเองมากที่สุดด้วยค่า


Leave a Comment